ไม่พบผลการค้นหา
ชุมชนริมคลองลาดพร้าว มีแนวคิดวางระบบเรือโดยสาร ตลอดแนวคลองลาดพร้าว หวังสร้างรายได้ให้ชุมชน ชดเชยผลกระทบจากการย้ายที่อยู่อาศัย ในโครงการจัดระเบียบตลอดแนวคลองลาดพร้าว

ชุมชนริมคลองลาดพร้าว มีแนวคิดวางระบบเรือโดยสาร ตลอดแนวคลองลาดพร้าว หวังสร้างรายได้ให้ชุมชน ชดเชยผลกระทบจากการย้ายที่อยู่อาศัย ในโครงการจัดระเบียบตลอดแนวคลองลาดพร้าว และสร้างทางเลือกให้คนใช้ระบบขนส่งสาธารณะตามสูตร ล้อ-เรือ-ราง เป็นไปได้หรือไม่ ในอนาคตเราอาจเห็นบริการเรียกเรือโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน?

 

"จำรัส" เจ้าของแนวคิดเรือโดยสารคลองลาดพร้าว เชื่อมต่อ ล้อ-เรือ-ราง

 

"จำรัส กลิ่นอุบล" ประธานชุมชนลาดพร้าว 45 พาทีมข่าว "วอยซ์ ทีวี" ล่องเรือไปตามคลองลาดพร้าว ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยร่องรอยการรื้อถอนบ้านเรือนรุกล้ำพื้นที่สาธารณะริมคลอง เพื่อเตรียมการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กของกรุงเทพมหานคร และก่อสร้าง "บ้านมั่นคง" โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำหรับให้ผู้อาศัยในพื้นที่เดิมเช่าอยู่ในระยะยาว ชดเชยการถูกถูกไล่รื้อจากบ้านเดิมริมคลอง

 

บ้านมั่นคงที่ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนใครในย่าน ลาดพร้าว-วังหิน

"หนี้ก้อนใหญ่" เป็นภาระที่จำรัสบอกว่า ผู้ถูกไล่รื้อจะปฏิเสธไม่ได้ แม้ได้รับเงินชดเชยจากรัฐเดือนละ 3,000 บาท สำหรับเช่าที่อยู่อาศัยระหว่างรอการย้ายเข้าบ้านมั่นคง ในขณะที่บ้านหลังใหม่ที่รัฐสร้างให้ ก็เป็นเพียงโครงสร้างที่จำเป็นต้องวางระบบน้ำ-ไฟ และตกแต่งภายในเพิ่มเติม ภาระการย้ายเข้า "บ้านหลังใหม่" ของผู้มีรายได้น้อย จึงเป็นที่มาของการจดทะเบียนสหกรณ์ร่วมกันระหว่าง ชุมชนลาดพร้าว 45 และ ชุมชนร่วมใจพิบูลย์ 2 รองรับกิจกรรมที่พวกเขามองว่าน่าจะสร้างเงินอย่างเป็นระบบได้ในอนาคต นั่นคือ การให้บริการขนส่งสาธารณะทางน้ำบนคลองลาดพร้าว

 

เรือจำนวน 1 ใน 3 ลำของชุมชนลาดพร้าว 45 ที่อาจเป็นเรือขนส่งสาธารณะในอนาคต

ประธานชุมชนลาดพร้าว 45 ย้อนให้ฟังว่า หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ 2554 เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียอย่างหนัก จากขยะที่ลอยเกลื่อนในคลองลาดพร้าว จึงเป็นที่มาของโครงการเดินเรือท่องเที่ยวิถีชุมชน เพื่อหวังปลุกจิตสำนึกให้ชุมชนร่วมกันรักษาความสะอาดของน้ำอย่างยั่งยืน ส่วนแนวคิดเดินเรือโดยสารสาธารณะ เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นภายหลัง ตั้งเป้าเชื่อมถนนลาดพร้าว บริเวณซอยลาดพร้าว 48 กับถนนรัชดาภิเษก บริเวณสถานีรถไฟใต้ดินรัชดา ด้วย "คลองบางซื่อ" สามารถย่นเวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนจาก 25 นาที เหลือเพียง 5 นาทีเท่านั้น

 

กูเกิล แมพ แสดงภาพคลองบางซื่อ เชื่อมกับคลองลาดพร้าว ผ่านถ.ลาดพร้าวและถ.รัชดาภิเษก

ภูมิทัศน์สองข้างทางคลองบางซื่อ มีต้นไม้ใหญ่สลับกับบ้านเรือนชุมชน

โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กตลอดแนวคลองลาดพร้าว-คลองสอง ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้อาศัยรุกล้ำพื้นที่ริมคลองกว่า 3,000 คน พวกเขาจำเป็นต้องย้ายที่อยู่อาศัยไปในพื้นที่ที่ภาครัฐจัดให้ ซึ่งส่วนใหญ่ก่อสร้างในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับชุมชนเดิม นอกจากหนี้สินจากการย้ายที่อยู่อาศัย ปัญหาที่ "จำรัส" กังวลมากกว่าคือความไม่ยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด จะทำอย่างไรให้ชุมชนสามารถต่อยอดประโยชน์ หรือสร้างรายได้ร่วมกันจากโครงการของรัฐ จึงเป็นที่มาของโครงการเรือโดยสารสาธารณะ

"เราจะทำอย่างไรให้โครงการที่รัฐทำออกมา แล้วเราสามารถต่อยอด ไม่อยากเห็นงบฯหมดแล้วเลิก เหมือนอย่างโครงการนี้ ที่เราทำกับภาครัฐ ไม่อยากให้เห็นเขื่อนเสร็จ บ้านเสร็จ แล้วทิ้งภาระให้ชุมชน ย้ายสลัมจากในคลองไปเป็นสลัมบนบก เพราะถ้าเราไม่สร้างเศรษฐกิจ รายได้ เชื่อว่าไม่เกิน 5 ปี ก็กลับไปเป็นสลัมเหมือนเดิม " ประธานชุมชนลาดพร้าว 45 กล่าว

 

คลองลาดพร้าวและคลองสองเป็นคลองเส้นเดียวกัน ไหลผ่านกรุงเทพฯในทิศเหนือ-ใต้ มีหน้าที่หลักเพื่อการระบายน้ำ

รูปแบบการให้บริการเรือโดยสารสาธารณะบนคลองลาดพร้าวที่จำรัสคิดไว้ แตกต่างจาก "เรือโดยสารคลองแสนแสบ" ที่เดินเรือผ่านท่าเทียบเรือประจำ แต่เรือของพวกเขาจะให้บริการคล้ายกับแท็กซี่หรือจักรยานยนต์รับจ้าง แน่นอนว่า จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาครัฐในการสร้างท่าเรือเพิ่มเติมภายหลังโครงการก่อสร้างเขื่อนริมคลองแล้วเสร็จ ภายใน 1-2 ปี ส่วนการให้บริการจำรัสบอกว่า จำเป็นต้องพึ่งพึ่งพาเอกชนที่มีประสบการณ์ด้านการขนส่ง หรือผู้ให้บริการแอปพลิเคชันด้านระบบขนส่งสาธารณะ ที่ทำให้ผู้ให้บริการเจอกับผู้โดยสารได้สะดวกขึ้น 

 

ผู้นำชุมชนลาดพร้าว 45 คาดหวังว่าโครงการก่อสร้างของรัฐฯ จะทำให้คนหันหน้าบ้านหาคลองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันชุมชนมีเรือพร้อมให้บริการเพียง 3 ลำเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา จำรัสบอกว่าต้องการ เขาจุดประกายให้ชุมชนหันมาสร้างอาชีพจากคลองที่พวกเขาอยู่อาศัย ด้วยการร่วมกันให้บริการเรือโดยสารตลอดความยาวของลาดพร้าว เขาคาดการณ์ว่า ความร่วมมือของรัฐ เอกชน และชุมชน จะทำให้คนหันมาใช้ชีวิตกับคลองมากขึ้นในอนาคต  นอกจากสร้างรายได้โดยตรงที่ชุมชนจะได้รับผ่านบริการเรือโดยสาร การหันหน้าให้คลองยังเป็นโอกาสสร้างอาชีพ สร้างรายได้ใหม่ๆ ผ่าน "คลอง" ซึ่งจะกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ เป็นโอกาสที่ชุมชนแออัดจะได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ที่สำคัญนี่ยังเป็นโอกาสที่คนกรุงเทพฯ จะมีทางเลือกใหม่ในการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะอีกด้วย

“ศักยภาพของคลองลาดพร้าว สามารถต่อรถ-ราง-เรือได้เยอะ ลดปัญหาของคนกรุงเทพฯได้เยอะ การเชื่อมโยงค่อนข้างเยอะ ผมพยายามทำความเข้าใจแต่ละชุมชน อยากให้ กทม. และภาครัฐทำความเข้าใจชุมชน เพราะถ้าชุมชนไม่เปิด ยังเป็นเหมือนเดิม กระบวนการจัดสร้างบ้านใหม่ยังปิดช่องทางให้คนรอบนอกเข้ามา  โอกาสของชุมชนจะหาย  ศักยภาพที่รัฐฟื้นฟูคลองจะลดลง ที่รัฐมองคือการระบายน้ำและการเชื่อมโยง แต่ผมมองว่าทุกๆภาคส่วนต้องได้ด้วย ชุมชน กทม. คนภายนอก”

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog