ไม่พบผลการค้นหา
มะเร็งเม็ดเลือดขาวคร่าชีวิต"ผู้พันต้น-พ.ท.คมกริช"หรือออกพระศรีถมอรัตน์ในภาพยนตร์ชุด ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ เผยเขียนบล็อกก่อนตาย จะจากด้วยรอยยิ้ม

 

มะเร็งเม็ดเลือดขาวคร่าชีวิต"ผู้พันต้น-พ.ท.คมกริช"หรือออกพระศรีถมอรัตน์ในภาพยนตร์ชุด ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ  เผยเขียนบล็อกก่อนตาย จะจากด้วยรอยยิ้ม
 
 
"พ.ท.คมกริช อินทรสุวรรณ" หรือผู้พันต้น ผู้รับบทเป็น "ออกพระศรีถมอรัตน์" ในภาพยนตร์ชุด ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ และเป็นเพื่อนสนิทของ "ผู้พันเบิร์ด-พ.ต.วันชนะ สวัสดี" ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ในวัย 41 ปี เมื่อเวลา 12.59 น. หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ามาเป็นระยะเวลานาน โดยญาติได้รับศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพฯแล้ว
 
 
ผู้พันต้น - พ.ท.คมกริช อินทรสุวรรณ เป็นชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2514 เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัว อินทรสุวรรณ จากจำนวน 2คน จบการศึกษาจาก ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (ตท.32) จปร.43 ปัจจุบัน รับราชการที่กองพันทหารราบ 11 กรุงเทพมหานคร ผลงานที่ผ่านมา ได้แก่ ภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2-3, ร้องเพลงประกอบละคร, ร่วมแสดงในละครชุดชีวิตจริง 84000 และ ละครเทิดพระเกียรติแด่ทหารกล้า
 
 
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ผู้พันต้น ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับอาการป่วยของตัวเอง ผ่านไดอารี่ ที่ บล็อกส่วนตัว http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=warest&month=05-2012&date=13&group=6&gblog=67 โดยระบุข้อความดังนี้
 
 
สวัสดีครับ..แฟนนานุแฟนที่รักทุกคนผมไม่เคยคิดฝัน ว่าจะได้กลับมาเขียนบล็อกถึงเพื่อนๆอีกครั้งในวันนี้ 10 เดือน เต็มๆ ที่ผมต้องเข้าออกรพ. ใช้เวลาต่อสู้ หาหนทางเอาชนะ "ลิวคีเมีย"ใช้ทรัพยาการทุกอย่างที่มีอยู่ ทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะชนะเจ้าโรคร้ายนี้ให้ได้ แต่แล้วในที่สุด ผมก็ต้องยอมกับอย่างภาคภูมิ ว่าไม่สามารถเอาชนะมันได้..คำพูดสุดท้ายของคุณหมอที่ รพ.จุฬา บอกกับผมก็คือ "ร่างกายผมไม่ตอบสนอง ต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัด ไม่มีหนทางใดที่จะรักษาลิวคีเมียของผมอีกต่อไปแล้ว" เหมือนฟ้าฝ่าลงกลางใจในตอนที่ผมได้ยิน แต่หลังจากนั้นผมก็ได้แต่ยิ้มให้กับชะตากรรมของตัวเองและบอกตัวเองว่า ไม่ว่าผมจะมีเวลาเหลืออีกสักเท่าไหร่ผมก็จะไม่ยอมแพ้..ผมก้มหน้ายอมรับความจริงที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่อย่างยากเย็น แต่เมื่อชีวิตถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้ จะมามัวเอาแต่ฟูมฟายเสียใจจมอยู่กับความทุกข์และความโชคร้ายที่ได้รับ ก็คงเสียชื่อที่เกิดเป็นทหารจนสิ้น สิ่งที่ผมคิด จากวันที่ได้ยินคำพูดของหมอก็คือ ผมจะใช้เวลาที่เหลือของผมให้คุ้มค่าที่สุด มุ่งทำประโยชน์ให้ สังคม และคนรอบข้างให้ได้มากที่สุด เท่าที่กำลังกายและกำลังใจผมจะอำนวย....วันใดที่หมดเวลาของผมแล้ว ผมก็จะจากไปด้วยรอยยิ้มที่เปือนเต็มใบหน้าฝากไว้ในใจให้ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่รักผม ได้จดจำจนว่าจะลืมกัน..
พ.ท.คมกริช"
 
 
ทั้งนี้ ในไดอารีดังกล่าวของผู้พันต้น ได้มีการอัพโหลดเพลง ซีซันส์เชนจ์ ของบอย โกสิยพงศ์ประกอบลงไปด้วย พร้อมภาพถ่ายของตัวเขาเอง
 
 
Source : news center/matichon/
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog