เปิดประวัติ "วีระ สมความคิด" ผู้ท้าชนรัฐบาลคสช.และตรวจสอบทุกรัฐบาล จากนักโทษเรือนจำเปรย์ซอร์ในกัมพูชา มาวันนี้เขากลับมาเป็นมือตรวจสอบอันดับต้นๆของประเทศ

ชื่อของ วีระ สมความคิด กลับมาเป็นที่สนใจในสายตาสื่อฯอีกครั้งเมื่อมีข่าวในวันที่ 9 มีนาคม ว่าศาลอาญา รัชดาภิเษก ที่จ.642 /2560 ออกหมายจับนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น(คปต.) ด้วยข้อหานำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 

ซึ่ง นาย วีระ โพสต์ Facebook ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่ตนทำโพลเรื่องคสช.ว่าประชาชนยังมีความเชื่อมั่นแค่ไหน? และตนไม่ได้คิดหนี โดยโพสต์ต่อว่า “ประกาศผ่านสาธารณะ ตำรวจไม่ต้องมาตามจับผมให้เสียเวลา ผมจะไปพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ในวันพุธที่ 15 มีนาคม 2560 เวลา 13.00 น." ร่วมเปิดประวัติวีระ สมความคิด คนตรงผู้ท้าชน คสช.ไปด้วยกัน

จากแกนนำนักเรียน 14 ตุลาฯ ถึงนักร้องเรียนมือ 1

การเมืองและชีวิตของวีระ สมความคิด เริ่มพบกันครั้งแรกเมื่อเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516  เมื่อวีระเป็นประธานนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเข้าร่วมชุมนุมกับประชาชนขับไล่คณะเผด็จการ จอมพลถนอม กิตติขจร หลังจากนั้นก็วนเวียนกับเหตุการณ์การชุมนุมทั้ง 6 ตุลาฯ 2519 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535

วีระ จบการศึกษาด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และยังสนใจศึกษาด้านพุทธศาสนาทั้งสายพุทธทาสภิกขุ และสายสันติอโศก ก่อนที่จะกลับมาสู่เวทีการเมืองข้างถนนอีกครั้งกับม็อบพันธมิตรประชาเพื่อประชาธิปไตยทั้งในปี 2549 และ 2551

หลังจากเกิดรัฐประหาร 2549 วีะได้ยื่นเรื่องต่อคตส.กรณีดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำความผิดตามกฎหมาย ปปช. มาตรา 100 ซึ่งนำไปสู่การตัดสินคดีที่ดินรัชดาภิเษกในปี 2551 ให้จำคุกอดีตนายกฯทักษิณเป็นเวลา 2 ปีถือว่าเป็นคดีแรกที่ถูกตัดสิน

ชีวิตนักโทษเรือนจำเปรย์ซอร์ จากกรณีเขาพระวิหาร

ปี 2552 วีระ และพวกได้จัดชุมนุมเพื่อเรียกร้องดินแดนเขาพระวิหารคืนจากกัมพูชา จนปะทะกับชาวบ้านจังหวัดศรีษะเกษได้รับบาดเจ็บไปทั้งสองฝ่าย จนเมื่อ 29 ธันวาคม 2553 วีระ ออกเดินทาง บริเวณอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อไปสำรวจพื้นที่การปักปันหลักเขตแดนไทย - กัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง

การเดินทางในครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตนายวีระไปตลอดกาลเมื่อคณะเดินทาง 7 คน อันรวมถึง นาย พณิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปรุกล้ำเขตแดนพื้นที่กัมพูชา กับปฏิบัติการณ์ที่นาย พณิชกล่าวในคลิปว่า "เรื่องนี้มีแค่ผมกับท่านนายกฯเท่านั้นที่รู้" ก่อนถูกทหารกัมพูชาจับตัว โดยศาลเขตพนมเปญได้ตั้งข้อหาวีระและพวกในข้อหาเดินทางข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมาย และรุกล้ำเขตทหาร ส่วนนายวีระและนางราตรี พิพัฒนาไพบูลย์โดนข้อหาหนักคือจารกรรมเนื่องจากพบกล้องบันทึกภาพติดตัวด้วย

เกิดความบาดหมางระหว่างประเทศในยุคสมัยพรรคประชาธิปัตย์ จนนาย กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศและอดีตเพื่อนร่วมชุมนุมพธม. 2551ของนายวีระ ต้องประสานไปยังนาย ฮอร์ นำฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเจรจาและสุดท้ายสามารถช่วยเหลือให้รอดพ้นมาได้ 5 คนหนึ่งในนั้นคือนาย พณิช ส.ส.ของประชาธิปัตย์ แต่นายวีระถูกตัดสินจำคุก 8 ปี และนางราตรีอีก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญาและนายวีระไม่ขอยื่นอุทธรณ์ใดๆทั้งสิ้น ถูกจองจำในเรือนจำเปรย์ซอร์ของกัมพูชา

ต่อมาจึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากราชวงศ์กัมพูชาในวาระพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอดีตพระมหากษัตริย์สมเด็จพระนโรดมสีหนุ รัฐบาลกัมพูชาได้ขอพระราชทานอภัยโทษและปล่อยตัวราตรีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 และลดโทษวีระลง 6 เดือน เป็นจำคุก 7 ปี 6 เดือน จนเมื่อปี 2557 นายวีระจึงได้รับการพระราชทานอภัยโทษหลังจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยเดินทางเยือนกัมพูชา

และเมื่อกลับมาในยุครัฐบาล คสช. วีระก็กลับมาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นทั้งกรณี ลูกและภรรยาของพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา การทุจริตการขุดคลองขององค์การทหารผ่านศึก และการโดดสภาแต่รับเงินเดือนของ 7 สนช. ผ่านทางโลกออนไลน์

ดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ให้ฉายาวีระว่า "นักร้อง(เรียน)มือหนึ่งของไทย" เพราะกล้าตรวจสอบทุกเรื่องทุกฝ่าย และไม่เคยเข้ารับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้นจากคณะรัฐประหารทั้งคมช.และคสช. และนี่คือประวัติผู้ที่กล้าท้าชนกับรัฐบาลคสช. วีระ สมความคิด ก่อนที่ล่าสุดจะถูกหมายศาลกรณีทำโพล 8 ประการต่อความนิยมคสช.