เพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเชฟรอน ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถดับไฟได้ทั้งหมด โดยเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับกำหนดเส้นตายการจ่ายค่าปรับให้ประเทศเอกวาดอร์จากกรณีทำให้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

บริษัทเชฟรอน ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันในเมืองริชมอนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ สามารถควบคุมเพลิงได้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถดับไฟได้ทั้งหมด เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าตามเวลาในประเทศไทย โดยเริ่มจากหอกลั่นน้ำมันดิบหมายเลข 4 และยังไม่สามารถดำเนินการดับไฟในพื้นที่หอกลั่นน้ำมันดังกล่าวได้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ คือ ควันที่มาจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ประกอบด้วยกรดซัลฟิวริกและก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ที่มีฤทธิ์เป็นพิษต่อร่างกาย และมีละอองอันตรายฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ซึ่งผู้ที่สูดดมสารพิษดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดอาการหอบหืดและเป็นอันตรายต่อปอดได้ทางการท้องถิ่นจึงออกคำสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนออกนอกบ้านพัก เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับอันตรายจากควันพิษที่ลอยอยู่ในอากาศ

ทางด้านโฆษกของเชฟรอนออกมาแสดงความเสียใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวและขออภัยต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟซึ่งในขณะนี้ได้ลอยเข้าไปเขตที่อยู่อาศัยหลายพื้นที่แล้ว

ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันริชมอนด์ของบริษัทเชฟรอน มีกำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 245,000 บาร์เรล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 8 ของความต้องการใช้น้ำมันทั้งหมดในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย

สำหรับเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันของเชฟรอน ในเมืองริชมอนด์ เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับกำหนดเวลาวันสุดท้ายที่ศาลเอกวาดอร์สั่งให้บริษัทเชฟรอนจ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ผ่านมา จากความผิดในกรณีที่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเอกวาดอร์เสียหาย

แต่ขณะนี้เชฟรอนยังคงไม่ได้ดำเนินการจ่ายค่าปรับจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด และคาดว่าจะเดินหน้าสู้คดีดังกล่าวต่อไป
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของอะเมซอนวอตช์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เชฟรอนมีกำไรวันละ 85 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีศักยภาพที่จะจ้างทนายความฝีมือดีและบริษัทประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท แต่สิ่งหนึ่งที่เชฟรอนไม่ได้ให้ความสำคัญคือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่รับผิดชอบของเชฟรอน