ไม่พบผลการค้นหา
'พชร นริพทะพันธุ์' จากลูกนักการเมือง (พิชัย นริพทะพันธุ์) มิชชันนารี คริสเตียน-เส้นทางการเมือง สู่คอมเม้นเตเตอร์ รายการ Tonight Thailand 

'พชร นริพทะพันธุ์' จากลูกนักการเมือง (พิชัย นริพทะพันธุ์) มิชชันนารี คริสเตียน-เส้นทางการเมือง สู่คอมเม้นเตเตอร์ รายการ Tonight Thailand 

เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. เวลา  20.30น.-22.00น.ในรายการ Tonight Thailand  ทางช่อง Voice TV 21 ได้มีการนำบุคคลรุ่นใหม่เข้ามาเป็นคอมเม้นเตเตอร์ร่วมวิเคราะห์ข่าว โดยหนึ่งในนั้นคือ นายพชร นริพทะพันธุ์ (ปาล์ม) บุตรชายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กูรูด้านเศรษฐกิจคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย

แต่ก่อนที่นายพชร จะมาเป็นคอมเม้นเตเตอร์ ได้ผ่านเรื่องราวการทำงานอะไรมาบ้างนั้นเริ่มจาก นายพชรจบการศึกษารัฐศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเซ้าเทิร์นแคลิฟอเนีย มหาบัณฑิต ยุติธรรมศาสตร์จาก มหาวิทยาลัย บอสตัน ที่ผ่านมานายพชรจะเรียกตัวเอง เป็นมิชชันนารี คริสเตียน ทำหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาคน และบุคคลากรที่ทำหน้าที่พัฒนาสังคม คอยฝึกฝนและให้ความรู้และแนวปรัชญา คอยปลูกฝังการสร้างความรักในครอบครัว การดูแลบุตร และ เสริมสร้างความรักตั้งแต่วัยเยาว์ รวมถึงเป็น วิทยากร ร่วมกับ อาสาสมัคร นานาชาติ ให้กับสถาบัน พอย์ทแมน ลีดเดอร์ชิพ ในการ เสริมสร้างภาวะผู้นำและต่อต้านการทุจริต คอรัปชั่น กับ จนท รัฐ ทั่วโลก โดยที่นายพชรมี เมนทอร์ที่ดีจากทุกมุมโลก ตั้งแต่เหล่า สมาชิกสภา ครองเกรส และ สมาชิกวุฒิสภา ที่ วอชิงตัน ดีซี ถึง ผู้ว่า เมืองจาการ์ตา นายพชรเป็นคริสเตียนคนเดียวในบ้าน ถึงแปลกแต่ก็ได้โอกาสใหม่จากความเชื่อ ทั้ง ผู้คนและแนวความคิด

"หลายคนบอก ศาสนาตะวันตก ผมบอก พระเยซูเป็นคนเอเชียนะ อยู่ตะวันออกกลาง ไม่ใช่ฝรั่ง เรามีหน้าที่ช่วยคนนะ พัฒนาสังคม ให้ความอิสระทางความคิด ใครจะเชื่ออะไรไม่ใช่หน้าที่เราแล้วแต่คนเลือกเลย แต่ เรามีหน้าที่คอยช่วยเหลือ คนทำงานแบบผมก็อยู่มาตั้งแต่ รัชกาลที่ 4 แล้ว ทำมาเรื่อย ไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้ใครเห็นว่าทำอะไร" นายพชร กล่าว

นายพชร มีโอกาสเริ่มงานทางการเมืองตั้งแต่ อายุ 17 ปี โดยได้รับการเอ็นดูจาก นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น สอนงาน และก็เรียนรู้จากการตามนายสุวิทย์ไป สาม สี่ กระทรวง จนกระทั่ง มาช่วยพ่อที่กระทรวงพลังงาน นายพชร บอกอีกว่า "บอกได้เลย เมื่อเราเปลี่ยน สถานะจากคนทำงาน เป็นลูกรัฐมนตรีปุ๊บ นรกแตกของ จริง อาจจะเป็นเพราะอ่อนประสบการณ์ในการเป็นลูกนักการเมือง เราเลยวางตัวไม่ถูก เราชอบทำงาน รักงาน รักหน่วยงาน รักข้าราชการ รักประชาชน แต่เขาไม่รักเรา คนทั่วไปเห็นเราเป็นแค่ลูก รัฐมนตรีมาเพื่อผลประโยชน์ " นายพชรได้แต่ตัดพ้อและทำใจ เพราะพ่อรักงานที่พ่อทำมาก

ทัศนะในการเมืองที่มีทหารเข้ามาบริหารประเทศฃนายพชร มองว่า "ช่วงเวลานี้มองว่าท่านผู้นำคิดยังไง ทหารคิดยังไง ผมผ่านช่วงวัยรุ่นมาในค่ายทหาร พ่อเลี้ยงผมเป็นทหารเรือ รุ่นเดียวกับท่านผู้นำนั่นแหละ ทหารมีระเบียบ มีวินัย แต่ให้คิดอะไรไม่ค่อยจะสร้างสรรค์ ลองไปถามแม่ผมดู ทะเลาะกันประจำ แต่เขารักหน้าที่ของเขานะ เสียสละชีวิตให้ได้เลย ภูมิใจในหน้าที่ ชุดเครื่องแบบ แต่เอาชีวิตให้รอดต้องให้แม่คิดและ ไปช่วยทำ ไม่งั้น เจ๊ง อดตายกันทั้งครอบครัว" นายพชร กล่าว

ส่วนการเมืองนายพชรเห็นว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเสียสละ แค่จะไปทำธุรกรรมธนาคารยังยาก เป็นลูกนักการเมืองนี่ยิ่งยาก พ่อเราพ่อค้า แม่เรานักธุรกิจ เราก็พอเอาตัวรอด ทำการค้า อสังหาบ้าง แต่ใจจิงๆเราชอบบริการคน เลยใช้เวลาทำธุรกิจเพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัว นอกนั้นก็ใช้เวลากับการเมือง และการทำงานกับนักการเมือง และข้าราชการ จากทั่วทุกมุมโลก

นายพชร สรุปให้ฟังคร่าวๆว่ามุมมองจากโลกกว้างทำให้เราสามารถเข้าใจอะไรมากขึ้น เราพร้อมให้บริการ เขาก็พร้อมใช้บริการ บางครั้งแค่นั่งฟัง จริงใจกับเขา เข้าใจเขา และ พร้อมที่จะร่วมผจญภัยไปกับเขา ไม่ว่าเราจะมีจุดยืนยังไงก็ตาม นั่นก็เพียงพอที่จะสร้างความสัมพันธ์ ที่ลึกซึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ

"ประเทศเรามีปัญหาด้านความสัมพันธ์ เราพร้อมที่จะแตกหักกันได้เสมอหาก คืดไม่เหมือนกัน ทำให้ เกิด ปฎิกริยากฎหมู่ หากไม่อยากถูกอับเปหิ ออกจากสังคม จิงๆแล้วเรารักกันได้ แม้คิดไม่เหมือนกัน เราเพียงแต่ต้องรักกันให้เป็น" นายพชร กล่าว

ทั้งนี้ นายพชร  จะมาร่วมเป็นคอมเม้นเตเตอร์ในรายการ Tonight Thailand ทุกวันเสาร์ ถือเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่สำคัญของคนรุ่นใหม่มาวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในมุมมองใหม่ๆ และถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบความรู้ความสามารถในฐานะบุตรชายของนายพิชัย กูรูด้านเศรษฐกิจคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ว่าจะทัดเทียมพ่อได้หรือไม่.

ชมรายการย้อนหลังได้ที่

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog