การเจรจาเพื่อออกจากสภาพยุโรปของอังกฤษต้องล่าช้าออกไปอีก หลังจากที่สภาสูงตัดสินให้รัฐบาลต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อรับประกันสิทธิของชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในอังกฤษอย่างถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน ทำให้การเริ่มเจรจาเบรกซิท อาจเกิดขึ้นไม่ทันเส้นตาย 31 มีนาคมที่รัฐบาลกำหนดไว้

สภาสูงของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 358 ต่อ 256 เสียง สนับสนุนให้รัฐบาลต้องแก้ไขข้อกฎหมายเบรกซิท ให้พลเมืองชาวยุโรปที่ขณะนี้อยู่ในสหราชอาณาจักรอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้รับสถานะอนุญาตพำนักอาศัยแบบเดิมต่อไป ถึงแม้ว่าสหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นสมาชิกของอียูแล้วก็ตาม ซึ่งสวนทางกับมติของสภาล่างก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ทักท้วงการเริ่มกระบวนการออกจากอียูตามแผนของรัฐบาล นับว่าเป็นการพ่ายแพ้ในรัฐสภาครั้งแรกของรัฐบาลอังกฤษ เกี่ยวกับการออกกฎหมายเบรกซิท

ผลการลงมติของสภาสูงทำให้การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษต้องล่าช้าออกไปอีก เนื่องจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังไม่มีอำนาจที่จะเดินหน้าเจรจาเงื่อนไขเกี่ยวกับการออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ซึ่งนางเมย์ตั้งเส้นตายไว้ว่าจะเริ่มการเจรจาภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ 

การที่อังกฤษกำลังจะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ทำให้ชาวยุโรปจำนวนมากที่ทำงานอยู่ในอังกฤษเป็นกังวล เนื่องจากนางเมย์เคยบอกว่าจะระงับไม่ให้ชาวยุโรป 27 ประเทศเดินทางมาทำงานที่อังกฤษได้โดยเสรี แม้ว่าจะต้องถูกตัดความสัมพันธ์ด้านการค้ากับกลุ่มประเทศในยุโรปก็ตาม

การตัดสินใจของสภาสูงทำให้เงินปอนด์ร่วงลงไปอย่างหนักทันที โดยล่าสุดมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 43 บาทต่อ 1 ปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่ายิ่งกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปล่าช้าออกไป ก็ยิ่งยืดเวลาของความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของอังกฤษให้ยาวนานยิ่งขึ้น

ภาพ: AP