ไม่พบผลการค้นหา
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต เช่น ยารักษาอาการเจ็บป่วย , ลดความอ้วน , อวดอ้างผิวขาว , เสริมสมรรถภาพทางเพศ

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต เช่น ยารักษาอาการเจ็บป่วย , ลดความอ้วน , อวดอ้างผิวขาว , เสริมสมรรถภาพทางเพศ

สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เผยปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 พบการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงของ
ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตมากมาย และได้สรุป 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย และมัก
โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงทางสื่ออินเทอร์เน็ต และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนี้

1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ยามหัศจรรย์
มักโฆษณาว่า “รักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างศักดิ์สิทธิ์” “หายขาดแน่นอน” “มหัศจรรย์พลังชีวิต” “ยอดเยี่ยม” “วิเศษ” “ดีที่สุด” “เหนือกว่าใคร”
ชอบอ้างผลงานวิจัย หรือชื่อแพทย์จากต่างประเทศ หรืออ้างสรรพคุณจากส่วนผสมสมุนไพรแปลกๆ หาก
ตรวจสอบจะพบว่า ไม่เป็นความจริง!!!
ความจริง : ลักลอบนําสารสเตียรอยด์มาผสมในตัวยา เพื่อให้มีผลบดบังอาการที่เป็นอยู่ เมื่อกินแล้วรู้สึกมีกําลังวังชา หายปวดเมื่อย เหมือนโรคที่เป็นอยู่กําลังจะหาย
อันตราย : เมื่อร่างกายได้รับสารสเตียรอยด์เป็นเวลานาน จะทําให้กระดูกผุ กระเพาะทะลุ ลดภูมิต้านทานในร่างกาย ทําให้ติดเชื้อได้ง่าย ยับยั้งการเจริญเติบโตของร่างกาย ระดับโปแตสเซียมในเลือดต่ํา ระดับน้ําตาลในเลือดสูง
อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้นได้ทําให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์อื่น เช่น
อ้วน เป็นสิว ขนดก ระบบประจําเดือนผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ปวดหลัง บวมน้ํา หัวใจล้มเหลว ซึมเศร้า
อาจวิกลจริต และอาจเสียชีวิตได้

2. ผลิตภัณฑ์อาหารอวดอ้างลดความอ้วน
มักใช้คําโฆษณาว่า “ดื้อยาก็ลดได้” “ลดอ้วนเร่งด่วน” “ผอมจริง ไม่โยโย้” “ลดจริง พิสูจน์ได้” และมักใช้ภาพก่อนและหลังกินยาที่เป็นภาพตัดต่อ หรือละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นมาประกอบ
ความจริง : ลักลอบใส่สารอันตรายพวกไซบูทรามีน ออกฤทธิ์กับประสาทส่วนกลาง ทําให้รู้สึกไม่อยากอาหาร
อันตราย : เมื่อกินติดต่อกันจะเกิดอาการติดยา ประสาทหลอน เกิดผลข้างเคียง เช่น ภาวะไตวาย ระบบทางเดินอาหาร ผิดปกติ อาจเกิดโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดตีบตัน และอาจเสียชีวิต

3. กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารอวดอ้างช่วยให้ผิวขาว
มักอ้างว่าทําให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลทันตา เช่น “ขาวออร่า” “14 วัน ขาว เนียน ใส” “หมดกล่อง หน้าใส ไร้ฝ้า” “กินแล้วสวยจากภายใน” “กินแล้วรักษา ฝ้า กระ จุดด่างดํา”
ความจริง : อาจมีการลักลอบใส่ยาหรือสารอันตรายลงไป เช่น ใส่ยาที่มีฤทธิ์ห้ามเลือดในผลิตภัณฑ์ โดยหวังผลข้างเคียงของยามาใช้รักษาฝ้า ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีผลวิจัยที่น่าเชื่อถือยืนยันว่าสามารถรักษาฝ้าหรือทําให้ผิวขาวขึ้นได้ ที่ร่ายแรงกว่านั้น คือ ผู้ที่กินอาจได้รับผลข้างเคียงจากยา ซึ่งบางครั้งร้ายแรงจนถึงชีวิต
อันตราย : กรณีกินผลิตภัณฑ์ที่ลักลอบใส่ยาที่มีฤทธิ์ห้ามเลือด เมื่อกินต่อเนื่องอาจทําให้เกิดลิ่มเลือดในร่างกาย และลิ่มเลือดนั้นอาจไปอุดตันเส้นเลือดในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากไปอุดตันที่ปอดอาจทําให้หายใจไม่ออก หรือกรณีอุดตันที่เส้นเลือดในสมองทําให้เสียชีวิตได้

4. ผลิตภัณฑ์ทาสิว ฝ้า หน้าขาว
มักใช้ข้อความโฆษณาว่าสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เช่น “ขาวใสใน 1 นาที” “ขาวจริงใน 7 วัน” “ขาวขั้นเทพ” “ขาวจริง ขาวไว”
ความจริง : ลักลอบผสมสารอันตราย พวกไฮโดรควิโนน ปรอทแอมโมเนีย และสเตียรอยด์ หน้าขาวเร็ว ขาวไวแค่ชั่วคราวเมื่อเวลาผ่านไป จะเกิดผื่นแพ้ ฝ้าดํา หน้าพังถาวร
อันตราย : สารไฮโดรควินิน ทําให้เกิดจุดด่างขาวที่หน้าเป็นฝ้าถาวร ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ,สารปรอทแอมโมเนีย ทําให้เกิดผื่นแดง ผิวบาง ร่างกายสะสมพิษปรอท ไตและทางเดินปัสสาวะ
อักเสบ , สารสเตียรอยด์ทําให้เกิดผื่นแพ้ รอยแตกเส้นเลือดใต้ผิวหนัง และกรดเรทิโนอิก หรือกรดวิตามินเอ ทําให้หน้าแดง แสบร้อนรุนแรง เกิดการอักเสบ ผิวหน้าลอกอย่างรุนแรง และเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

5. กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
มักโฆษณาอวดอ้างว่าทำให้ “ใหญ่ยาว เพิ่มขนาด” “อึดทนนาน” “ทําจากสมุนไพรธรรมชาติ”
ความจริง :ลักลอบใส่ “ซิลเดนาฟิล” ซึ่งเป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ มีผลข้างเคียง คือ ปวดศีรษะ หน้าแดง มึนงง
อันตราย : อาจเกิดอาการช็อก หัวใจวายเฉียบพลัน และเสียชีวิตได้ 

นอกจากนี้ยังพบการโฆษณาที่มอมเมาเยาวชน ให้มีการนําผลิตภัณฑ์ยามาใช้ในทางที่ผิด เช่น กลุ่มยาแก้ปวดผสมยาน้ําเชื่อมแก้แพ้ แก้ไอ
กลเม็ดโฆษณาลวง เมาง่าย ไม่ขม ไม่แพง ไม่ใช่ยาเสพติด ฉี่ไม่ม่วง ครูไม่รู้ ตํารวจไม่จับ
ความจริง : หากกินยาทรามาดอลร่วมกับยาน้ําเชื่อมแก้แพ้ แก้ไอ หรือเรียกย่อ ๆ ว่ายาโปร เป็นการใช้ยาในทางที่ผิดส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และอาจเกิดการเสพติดทางใจได้
อันตราย : อันตรายต่อสุขภาพ เกิดอาการประสาทหลอน หากได้รับเกินขนาดอาจทําให้เกิดอาการชัก เกร็ง กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตได้รวมทั้ง หากกินเป็นระยะเวลานานจะส่งผลให้ระบบประสาทเชื่องช้าเซื่องซึมลง

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog