ไม่พบผลการค้นหา
ประชาชน 2 ฝ่ายต่างแสดงความคิดเห็น และจุดยืน เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่  ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2558-2579 วอยซ์ทีวีได้รวบรวมข้อดี และข้อเสียของการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน เปรียบเทียบกับการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังอื่น

ประชาชน 2 ฝ่ายต่างแสดงความคิดเห็น และจุดยืน เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่  ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2558-2579 วอยซ์ทีวีได้รวบรวมข้อดี และข้อเสียของการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน เปรียบเทียบกับการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังอื่น

ข้อมูลจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณสำรองถ่านหินมากกว่า 2,000 ล้านตัน  และเมื่อพิจารณาความต้องการไฟฟ้าในภาคใต้ที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2562 กําลังผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอ

โรงไฟฟ้าถ่านหิน  ต้นทุนต่ำกว่าการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งอื่นๆ จึงทำให้ค่าไฟของไทยไม่สูงเกินไป โดยพบว่า พลังงานหลักของโลกที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าคือถ่านหิน เพราะมีปริมาณสำรองมากใช้ได้ถึง 200 ปี นอกจากจะมีมากแล้วต้นทุนยังต่ำ เมื่อเทียบกับแหล่งอื่น โดยพบว่า ต้นทุนการผลิตไม่ถึง 1 บาท เมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ ต้นทุนการผลิตกว่า 20 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ ยังพบมากในพื้นที่ภาคเหนือโดยเกือบร้อยละ 90 สามารถจัดหาได้ในพื้นที่จังหวัดลำปาง และแหล่งอื่นในพื้นที่ใกล้เคียง

ข้อมูลจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ พบว่า ในปี 2557 ทั่วโลกผลิตพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 23.8 ล้านกิกกะวัตต์ต่อชั่วโมง โดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้ามากที่สุด ร้อยละ 40.8 ตามด้วยก๊า���ธรรมชาติ ร้อยละ 21.6 พลังน้ำ ,นิวเคลียร์ ,น้ำมัน ,  พลังงานหมุนเวียน เช่น ลม แสงแดด ความร้อนใต้พิภพ และคลื่น ที่เหลือคือชีวมวลและขยะ

ส่วนเทคโนโลยีของโรงไฟฟ้ากระบี่ จะเลือกใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน โดยระบบเผาไหม้และหม้อไอน้ำของโรงไฟฟ้าจะเป็นเทคโนโลยีระดับ Supercriticalขึ้นไป ที่ให้ประสิทธิภาพการผลิตพลังงานถึงร้อยละ 42-45

ขณะที่กรีนพีซ หนึ่งในแนวร่วมหลักคัดค้านการใช้ถ่านหินมาผลิตกระแสไฟฟ้า ระบุว่า ถ่านหิน เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ก่อมลพิษสูงที่สุด เป็นตัวปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลกปัจจุบันพบว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ 1 ใน 3 ของโลก  มาจากการเผาไหม้ของถ่านหิน ที่จะปล่อยคาร์บอนมากกว่าน้ำมันร้อยละ 29 และปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ ต่อหน่วยพลังงานมากกว่าก๊าซ ร้อยละ 80 

กรีนพีซ ยังยกรายงานทางวิชาการของกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และกรีนพีซสากล ที่ระบุว่าการปล่อยมลพิษทางอากาศจากโรงไฟฟ้าถ่านหินในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน เป็นสาเหตุของภาวะการเสียชีวิตที่สูงกว่าปกติในแต่ละปี ประมาณ 20,000 รายและจะเพิ่มขึ้นเป็น 70,000 ราย ภายในปี 2573 หากแผนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในปัจจุบันยังเดินหน้า พร้อมยกตัวอย่างหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ก้าวข้ามเทคโนโลยีสกปรกและล้าสมัยอย่างถ่านหิน ไปใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาดแล้ว เช่นเวียดนาม ถือเป็นประเทศแรกที่ประกาศยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ 17 แห่งและลดขนาดโครงการที่มีผลกระทบต่อสุขภาพลงไปมากกว่าหนึ่งในสี่ เช่นเดียวกับจีน ประเทศที่ปล่อยมลพิษทางอากาศรายใหญ่ที่สุดในโลก ก็ใช้ถ่านหินลดลงในภาพรวม 
 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog