เจ้าของคาเฟ่ในเวียนนาเดือด! เรียกเก็บค่าไฟหลังเจอลูกค้าแอบชาร์จไฟโทรศัพท์นาน เจ้าตัวบอก 'เธอเปิดคาเฟ่นั่งชิลนะ ไม่ใช่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่'
เว็บไซต์บีบีซีรายงานว่า กาลินา โปคอร์นี เจ้าของคาเฟ่แห่งหนึ่งในกรุงเวียนนา ออสเตรีย ออกมาตรการใหม่สำหรับลูกค้าไร้จิตสำนึกนั่งชาร์จโทรศัพท์ในร้านนานไม่แบบเกรงใจ ด้วยการเรียกเก็บเงินค่าชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์ที่ 1 ยูโร หรือประมาณ 40 บาท หากพบว่าลูกค้าคนไหนชาร์จโทรศัพท์นานๆ
เจ้าของร้านคาเฟ่ดังกล่าวบอกว่า ถ้าลูกค้าคนไหนชาร์จแค่ 15 นาที อันนี้ถือว่ายังพอรับได้ แต่ถ้าเกินกว่านี้เธอต้องคิดค่าบริการในบิลเพิ่ม และที่เก็บ 1 ยูโรนี้รวมถึงการเสียบชาร์จแล็ปท็อป, แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆที่ต้องใช้การชาร์จ
โปคอร์นี บอกกับนักข่าวจากรอยเตอร์ว่า เธอเปิดบริการร้านอาหาร ไม่ใช่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ซะหน่อย ทำให้ลูกค้าต้องเข้าใจว่าทุกที่สามารถชาร์จไฟฟรีด้วย ทำให้ร้านคาเฟ่ของเธออาจกลายเป็นร้านแรกในออสเตรียที่เรียกเก็บค่าบริการชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์ ส่วนสาเหตุที่คาเฟ่ของโปคอร์นีกลายเป็นที่รู้จักสืบเนื่องจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งนำเสนอข่าวบิลเรียกเก็บค่าอาหารที่บวกเพิ่มค่าไฟเข้าไปด้วย
ในขณะที่บางคนมองว่าการเก็บค่าบริการชาร์จโทรศัพท์ถือเป็นเรื่องยุติธรรมดี แต่บางคนกลับมองว่าเรียกเก็บแพงเกินไป โดยเมื่อปีที่แล้ว (59) เว็บไซต์เกี่ยวกับเทคโนโลยี ZDNet คำนวนค่าไฟขณะชาร์จโทรศัพท์ออกมาแล้วว่าเพียง 0.79 ยูโร หรือราว 30 บาทต่อปีเท่านั้น
แต่สำหรับโปคอร์นีนั้นอาจจะหัวเสียเพราะลูกค้าเข้าใช้บริการคาเฟ่ของเธอเพื่อหวังใช้อินเทอร์เน็ตกับไฟฟรี แทนที่จะนั่งจิบกาแฟชิลๆ ซึ่งจะเห็นได้จากร้านนั่งชิลหลายร้านที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักนั่งก้มหน้ากับโทรศัพท์ของตัวเอง ทำให้บรรยากาศภายในร้านอึมครึม แทนที่พวกเขาจะสนใจคนที่มานั่งด้วย
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงบุคคลเข้าไปนั่งในคาเฟ่แล้วเปลี่ยนเป็นที่ทำงาน ร้านบางแห่งใช้วิธีซ่อนปลั๊กไฟ พร้อมจำกัดเวลานั่งภายในร้าน หรือแม้แต่จำกัดเวลาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ป้องกันพวกนั่งแช่นานๆ