ไม่พบผลการค้นหา
​​​​​​​เจ้าสัวซีพี เสนอทฤษฎี 3 สูง 1 ต่ำ สร้างมูลค่าเพิ่มลดต้นทุน เดินหน้านโยบายเกษตร 4.0 แนะรัฐ เร่งแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน    

เจ้าสัวซีพี เสนอทฤษฎี 3 สูง 1 ต่ำ สร้างมูลค่าเพิ่มลดต้นทุน เดินหน้านโยบายเกษตร 4.0 แนะรัฐ เร่งแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน    

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ระบุว่า การพัฒนาเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่รัฐบาลเดินหน้ามาถูกต้อง โดยนโยบาย 4.0 เป็นการพัฒนาให้ไทยมีความก้าวหน้าในการลงทุนได้ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิตนั้น ไม่ใช่เฉพาะในภาคอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ในภาคการเกษตรก็มีความสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันภาคการเกษตรควรใช้ทฤษฎี 3 สูง 1 ต่ำ คือ ลงทุนสูง ผลผลิตสูง คุณภาพสูง และต้นทุนต่ำ เพื่อให้ก้าวขึ้นเป็นเกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ซึ่งจะสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าภาคการเกษตรได้ เพราะไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก ไม่ใช่เพียงแต่ข้าวอย่างเดียว แต่มีผลผลิตอื่นๆ ออกมาต่อเนื่อง ซึ่งภาคการเกษตรต้องนำนวัตกรรมเข้ามาเสริมในเรื่องการแข่งขัน โดยไทยเข้าสู่ในยุค 4.0 ขณะนี้ถือว่าไม่ช้าเกินไป หรือเสียโอกาส ที่จะเริ่มลงทุน 

อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐเร่งแก้ไขกฎหมายต่างๆที่ยังเป็นอุปสรรค และเอื้อให้เกิดเกษตร 4.0 ให้ได้ โดยสิ่งสำคัญคือต้องรับฟังความคิดเห็นจากคนรุ่นใหม่ เพื่อให้พัฒนาระบบได้อย่างทันสมัย โดยซีพีเองตั้งเป้าภายใน 1 ปี จะพัฒนาบุคลากรกลุ่มดังกล่าวให้ดีขึ้น 

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการบริหาร บริษัทปูนซีเมนต์ไทย มองว่า การพัฒนาให้ไทยก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 นับเป็นแกนหลักของการผลิตทุกภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นทุกแห่งจะต้องเร่งปรับตัว ปรับเปลี่ยน พัฒนาสินค้าให้แข่งขันได้ โดยเฉพาะการใช้งบเพื่อการวิจัยและพัฒนา ซึ่งปัจจุบันงบดังกล่าวถือว่าน้อยมาก โดยเมื่อปี 2523 ไทยมีงบการวิจัยเพื่อการพัฒนา 0.2% ของจีดีพี และเพิ่มเป็น 0.48% ในปี 2558 และเพิ่มเป็น 0.6% ในปี 2559 ซึ่งน้อยมากเมือเทียบกับงบการวิจัยเพื่อการพัฒนาของจีน เกาหลีใต้ และมาเลเซียที่มีมากกว่า 1% ขึ้นไป ขณะที่ไทยมีนักวิจัยเพียง 12-13 คนต่อประชากร 10,000 คนเท่านั้น ถือว่าต่ำมาก ดังนั้นภาครัฐจะต้องสนับสนุนงบประมาณในส่วนดังกล่าว เพื่อให้เอกชนได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยมากขึ้น 

Mr. Pierre Jaffre ประธานภาคพื้นเอเชียปซิฟิก แอร์บัส กรุ๊ป มองว่าอีก 10 ข้างหน้า จะเป็นประเทศที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุน เพราะไทยมีการพัฒนาเทคโนโลยีในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญมากขึ้น โดยมองว่า เทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจมาก ซึ่งที่ผ่านมาแอร์บัสมีการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านระบบ Big Data ของอุตสาหกรรมการบิน ทำให้แอร์บัสสามารถวางแผนการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ด้าน Ms. Joy Tan ประธานบริหาร ฝ่ายสื่อสารองค์กร หัวเหว่ย เทคโนโลยี ระบุว่า การลงทุนของไทยยังมีศักยภาพเติบโตขึ้นอีก ซึ่งหัวเหว่ยพร้อมเข้ามาร่วมลงทุนโครงการต่างๆ ที่ไทยกำลังดำเนินการ เพราะได้รับสิทธิประโยชน์จำนวนมาก และทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและมีการจัดตั้งระบบ Eco System อย่างเป็นทางการจะทำให้ไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog