ไม่พบผลการค้นหา
มิวเซียมสยามชวนมาดู 'สาธรยูนีค' ในฐานะสัญลักษณ์ครบรอบ 20 ปีวิกฤตเศรษฐกิจ โดยจะมีการแถลงข่าวและเสวนา 'สูตรไม่สำเร็จ : เศรษฐกิจ 2540' วันที่ 15 ก.พ. 60 ที่ตึกสาธรยูนีค และอย่าพลาด 'ต้มยำกุ้งวิทยา วิชานี้อย่าเลียน' ระหว่างวันที่ 6 มี.ค. – 2 ก.ค.60 ที่มิวเซียมสยาม

มิวเซียมสยามชวนมาดู 'สาธรยูนีค' ในฐานะสัญลักษณ์ครบรอบ 20 ปีวิกฤตเศรษฐกิจ โดยจะมีการแถลงข่าวและเสวนา 'สูตรไม่สำเร็จ : เศรษฐกิจ 2540' วันที่ 15 ก.พ. 60 ที่ตึกสาธรยูนีค และอย่าพลาด 'ต้มยำกุ้งวิทยา วิชานี้อย่าเลียน' ระหว่างวันที่ 6 มี.ค. – 2 ก.ค.60 ที่มิวเซียมสยาม

นายทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร นักจัดการความรู้อาวุโส มิวเซียมสยาม กล่าวว่า ในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 20 ปี วิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง” ซึ่งเป็นวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ที่เริ่มต้นจากไทยและแพร่ไปทั่วเอเชีย เกิดการโจมตีค่าเงินบาท จนรัฐบาลสมัยนั้นต้องประกาศลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 และประเทศไทยต้องเข้ารับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ส่งผลให้ฐานะเศรษฐกิจของประเทศและชีวิตของปัจเจกหลายคนพลิกผันอย่างมหาศาล ตั้งแต่ครั้งนั้นตกทอดมาถึงปัจจุบัน

ทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร นักจัดการความรู้อาวุโส มิวเซียมสยาม
 

ปีนี้มิวเซียมสยามจึงจัดงาน “ต้มยำกุ้งวิทยา วิชานี้อย่าเลียน” ระหว่างวันที่ 6 มี.ค. – 2 ก.ค.60 ที่มิวเซียมสยาม โดยจะมีการแถลงข่าวและเสวนา “สูตร (ไม่) สำเร็จ : เศรษฐกิจ 2540” วันที่ 15 ก.พ. 60 ที่ตึกสาธรยูนีค สถานที่ซึ่งได้รับผลกระทบและยังคงสภาพเดิมตั้งแต่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ที่สำคัญมิวเซียมสยามได้เลือกให้ตึกสาธรยูนีคเป็นไอคอนหรือสัญลักษณ์ของงานด้วย

สาธร ยูนีค ทาวเวอร์
 
 

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า คนที่เกิดไม่ทันวิกฤตต้มยำกุ้งอาจไม่ทราบที่มาที่ไปของตึกสาธรยูนีคจึงมักจะให้ความหมายว่า เป็นตึกสวยซ่อนความรู้สึกน่ากลัว เป็นตึกร้างที่น่าบุกเข้าไปผจญภัย และได้รับการบอกต่อจนเป็นหมุดหมายเก๋ ๆ ของกรุงเทพฯ ตอนทีมมิวเซียมสยามขออนุญาตเข้าไปดูสถานที่ เมื่อเปิดประตูเข้าไปในตึกก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งฝรั่งและญี่ปุ่นมามุงดู เขาอยากเข้าตึกนี้มาก
 
ส่วนตัวก็รู้สึกเสียดายและรู้สึกไม่เป็นธรรมที่ตึกถูกเสพอย่างไม่สนใจที่มาที่ไปของมัน เป็นเหมือนการซ้ำเติม ขณะที่ความจริง “สาธรยูนีค” เปรียบเหมือนอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ถ้าเรามองด้วยมุมความเป็นจริง เราก็จะได้ตระหนักว่าทำไมตึกสวย ๆ ที่สร้างใกล้เสร็จจึงสร้างต่อไม่ได้ อยากให้มีการตั้งคำถามสืบย้อนไปถึงที่มาเหล่านี้มากกว่า ซึ่งคนในวัยทำงานปัจจุบันอาจจะพอทราบคร่าว ๆ ว่า ตึกนี้ต้องหยุดสร้างเพราะวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นวิกฤตครั้งสำคัญของประเทศที่หลายสิ่งหลายส่งผลมาถึงปัจจุบัน

เมื่อมิวเซียมสยามต้องมาทำเรื่องนี้ในเวลา 20 ปีให้หลังเหตุการณ์ลอยตัวค่าเงินบาท ทีมงานหลายคนจึงนึกถึงตึกนี้เป็นสิ่งแรกๆ เพราะมองว่าเป็นตึกที่สามารถเล่าเรื่องได้ อยากให้ความหมายใหม่ หวังให้คนมองเห็นตึกนี้แล้วอยากหาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันไม่ใช่โชคชะตาความผิดของเจ้าของตึก แต่เป็นเรื่องของทั้งสังคมที่เชื่อมโยงถึงกัน 

 “ได้คุยกับคุณพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ เจ้าของโครงการ สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ จะรู้ว่าตึกมันไม่เคยร้างนะ เพราะคุณพรรษิษฐ์กับคุณพ่อ (อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ) ไม่เคยทิ้งตึกนี้เลย ตลอด 20 ปี เขาอยากให้เรื่องจบโดยที่ลูกค้าได้เงินคืนเต็มจำนวนที่เคยจ่ายเมื่อ 20 ปีที่แล้ว กรณีสาธรยูนีค คือการที่ต้องบริหารทั้งในเชิงธุรกิจ และต้องต่อสู้กับนโยบายแก้วิกฤตที่ในทางปฏิบัติแล้วมีการเหมารวมให้ธุรกิจที่มีศักยภาพต้องพลอยล้มไปพร้อม ๆ กับธุรกิจที่เป็นหนี้เสีย” นายทวีศักดิ์กล่าว

 พรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ และ สาธร ยูนีค ทาวเวอร์
 
 

นายทวีศักดิ์ กล่าวถึงกิจกรรมที่มิวเซียมสยาม ระหว่างวันที่ 6 มี.ค. – 2 ก.ค.60 ว่า วันสุดท้ายของงานตรงกับ 2 ก.ค. ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของวิกฤตครั้งนั้นเพราะเป็นวันที่รัฐบาลสมัยนั้นประกาศลอยตัวค่าเงินบาท สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วยนิทรรศการให้ข้อมูลตั้งแต่ยุคฟองสบู่ก่อนวิกฤตและผลกระทบหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง โดยนิทรรศการไม่ได้มุ่งหาคนผิดแต่อยากให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงในยามเกิดวิกฤต คนในสังคมไทย เขาหยิบหรือคิดค้นประดิษฐ์อะไรเพื่อกู้วิกฤตบ้าง เช่น เกษตรทางเลือก ซึ่งมีมาก่อนปี 2540 แต่หลังเกิดวิกฤตก็ทำให้แนวทางนี้กลายเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญมาตลอด และน่าจะเป็นเชื้อความคิดให้กับแนวคิดหลายๆ อย่าง เช่น “สโลว์ไลฟ์”  ที่เราพูดกันในปัจจุบัน และสังคมไทยยังมีทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงที่หลายชีวิตยึดถือเพื่อผ่านพ้นอุปสรรคในช่วงนั้น 

นอกจากนิทรรศการแล้วยังมีกิจกรรม “เปิดท้ายขายของ” อันเป็นจุดความพลิกผันของการมองโลกของชนชั้นกลาง จากช่วงก่อนปี 2540 คนจบปริญญาตรีจะไม่ทำงานขายของตลาดนัดเด็ดขาด เพราะเรียนจบแล้วต้องทำงานแบงก์ บริษัทใหญ่ กินเงินเดือนเป็นคนทำงานนั่งโต๊ะ แต่ปี2540 ทำให้ปลดล็อคความคิดตรงนี้ และปัจจุบัน ตลาดนัดฮิป ๆ ก็เกิดขึ้น การเป็น Entrepreneurship เป็นเจ้าของกิจการ การขายของเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องต้องรู้สึกลดเกรดตัวเอง 

นอกจากนั้นในงานจะมีการฉายภาพยนตร์พร้อมเสวนาพูดคุยกับผู้กำกับซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อ โดยมิวเซียมสยามมองว่า ภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญในการสะท้อนความคิดความรู้สึกของคนในยุคนั้น โดยภาพยนตร์จะมี 2 ประเภท คือ 1) ภาพยนตร์ที่ใช้เหตุการณ์นี้เป็นฉากหลังของเรื่อง เช่น “102 ปิดกรุงเทพปล้น” กำกับโดย ธนิตย์ จิตนุกูล  “ตลก69” กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง  “ภวังค์รัก” โดย ลี ชาตะเมธีกุล และ 2) ภาพยนตร์ที่ปลุกกระแสความรักชาติหรือความเป็นไทยขึ้นมา อาจจะโดยไม่ตั้งใจ แต่ช่วยเติมเต็มคนดูในยุคนั้น จนเรียกได้ว่า หนังไทยฟื้นขึ้นมาอีกยุคเลยก็ว่าได้ นับเป็นเรอเนสซองซ์ของหนังไทย เช่น “นางนาก” กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร เป็นหนังที่ใส่ใจกับกลับไปค้นหาความเป็นไทย “ฟ้าทะลายโจร” กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง  “บางระจัน” กำกับโดย ธนิตย์ จิตนุกูล “มนต์รักทรานซิสเตอร์” กำกับโดย เป็นเอก รัตนเรือง หนังเหล่านี้ล้วนกลับไปหาความเป็นไทยทั้งสิ้น เป็นเหมือนส่วนเติมเต็มแก่ผู้บริโภค เพราะตอนนั้นคนไทยรู้สึกว่าแพ้โลกาภิวัตน์ แพ้ฝรั่ง แพ้อะไรก็ไม่รู้ที่ใหญ่เหลือเกินในระบบทุนนิยม เราจึงต้องยืนยันตัวตนที่แกร่งพอจะสู้ภายนอกได้ หรือ สำนึกรักบ้านเกิดก็เกิดขึ้นมาตอนนั้น เกิดเป็นการกลับไปหารากของชุมชนและนำเสนอตัวตนออกมา รวมถึงในสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งเช่น อัมพวาก็เกิดขึ้นจากตรงนี้ 

 

นายทวีศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในการเตรียมงานมิวเซียมสยามได้พูดคุยกับหลายคนในวิกฤตครั้งนั้น มีเรื่องเศร้า เรื่องหม่นหมอง น่าเห็นใจจำนวนมาก บางคนไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ในวิกฤตนั้น เช่น คนขายวัสดุก่อสร้าง พอเกิดวิกฤต เจ้าของโครงการหาลูกค้าไม่ได้ ก็ไม่มีเงินจ่ายผู้รับเหมา ผู้รับเหมาก็ไม่มีเงินจ่ายคนขายวัสดุและแรงงาน เขาก็กลายเป็นหนี้เอง ล้มเป็นโดมิโน คนอื่นล้มมาแต่โดนเราด้วย อันนี้เป็นเรื่องสังคมทั้งสังคมต้องมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคนหนึ่งล้มไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะรอด  

มีอีกกรณีเป็นนิติกรที่ต้องอยู่ในบริษัทเป็นคนท้ายๆ เพราะแผนกอื่นถูกเลิกจ้างเกือบหมดแล้ว แต่บริษัทยังมีคดีความฟ้องร้องกัน วันหนึ่งเจ้านายโทรมาบอกนิติกรคนนี้ว่า “ฝากบริษัทด้วยนะ” แล้วก็วางสายไป จากนั้นเจ้านายไปฆ่าตัวตาย ขณะที่เขาก็ต้องทำงานต่อเนื่องมาอีกหลายปีเพื่อสะสางคดีความของบริษัท 

ในยุคนั้นทวงหนี้กันโหด คนที่เป็นหนี้นอกระบบก็ถูกขู่ฆ่า เขามีข้อสรุปกันว่า ต้องใช้หนี้นอกระบบก่อน เพราะหนี้นอกระบบจะมาเอาชีวิต ทวงแรง ทวงหยาบคาย ไปทวงกับแม่ซึ่งอายุเยอะรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ส่วนหนี้ในระบบยังมีเวลาฟ้องร้องอีกหลายปี 

บางคนหนีเจ้าหนี้โดยการล็อคกุญแจหน้าบ้านไว้ เหมือนบ้านปิดไปแล้ว เหมือนไม่มีคนอยู่แต่ตัวเองอยู่ข้างในแบบปิดน้ำปิดไฟ เพราะไม่รู้จะหนีไปไหน แต่ในวิกฤตมีทางออก พนักงานออฟฟิศจำนวนมากกลับบ้านไปอยู่กับบ้านเกิดทำให้เห็นว่า ชนบทมีช่วยลดแรงของวิกฤตได้มาก กลับไปอยู่แบบหายใจเบาๆ ไม่ให้มีรายจ่ายเพิ่ม แต่จะให้หันมาทำการเกษตรก็เป็นเรื่องยากเพราะคนจบปริญญาทิ้งทักษะการเกษตรไปหมดแล้ว

“หากจะมองให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ก็มีข่าวปิดโรงงาน ลอยแพคนงาน ข่าวเหล่านี้เป็นคล้ายกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เหมือนกันเลย  มิวเซียมสยามอยากชวนตั้งคำถามว่า และถ้าจะมีวิกฤตอีกครั้ง เราพร้อมไหม เรามีเครื่องมือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเหมือนยุคนั้นหรือเปล่า” นายทวีศักดิ์กล่าว และทิ้งท้ายด้วยว่า 20 ปี วิกฤตต้มยำกุ้งเป็น “ประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต” คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เรายังอยู่ในเหตุการณ์ คนที่เกิดปี 2530 อาจมีความทรงจำคลับคล้ายคลับคลา ว่ามันเกิดอะไรขึ้น บางคนอาจจะไม่รู้สาเหตุตอนเด็กๆ เรียนคอนแวนท์แล้วทำไมต้องย้ายมาโรงเรียนรัฐ ถ้ามีใครมีข้อสงสัย ในช่วงพอดีกับต้มยำกุ้ง ลองกลับไปบ้าน ถามคุณพ่อคุณแม่ดูว่าได้รับผลกระทบอะไรบ้าง จะได้ข้อมูลความรู้ที่มาพร้อมบรรยากาศในลมหายใจ 

*ขอบคุณภาพตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ จากมิวเซียมสยาม

*ขอบคุณภาพโปสเตอร์หนังบางระจัน จากวิกีพีเดีย 

 

กำหนดการเสวนา “สูตรไม่สำเร็จ : เศรษฐกิจ 2540” วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560

13.00 – 13.00 น.     ลงทะเบียน
13.30 – 13.40 น.     เปิดงานเสวนา
13.45 น.             เริ่มงานเสวนาโดย ผู้ดำเนินรายการ คุณ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
13.45 - 14.05 น.     วิทยากร     คุณพรรษิษฐ์    ต่อสุวรรณ
14.05 – 14.25 น.     วิทยากร       คุณศิริวัฒน์    วรเวทวุฒิคุณ
14.25 – 14.45 น.     วิทยากร       คุณสฤณี    อาชวานันทกุล   
14.45 – 15.05 น.     วิทยากร    คุณภิญโญ      ไตรสุริยธรรมา
15.05 – 15.25 น.     วิทยากร    ผศ.ดร.พิชญ์      พงษ์สวัสดิ์
15.25 – 16.00 น.     ตอบคำถามผู้เข้ารับฟังเสวนา
16.00 น.        จบงานเสวนา
 

บทความที่เกี่ยวข้อง:สัมภาษณ์เจ้าของ “สาธรยูนีค” ตึกร้างที่มิวเซียมสยามจัดให้เป็นสัญลักษณ์ 20 ปี วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog