ไม่พบผลการค้นหา
แผนการนำรถเมล์เอ็นจีวี เข้าไทยอาจมีปัญหา หลังกรมศุลกากรพบพิรุธการเลี่ยงภาษี ทำให้ไม่สามารถนำรถออกมาส่งมอบให้ ขสมก.ได้

แผนการนำรถเมล์เอ็นจีวี เข้าไทยอาจมีปัญหา หลังกรมศุลกากรพบพิรุธการเลี่ยงภาษี ทำให้ไม่สามารถนำรถออกมาส่งมอบให้ ขสมก.ได้


แผนการนำรถเมล์เอ็นจีวี เข้ามาให้บริการในประเทศไทย เป็นนโยบายที่ดำเนินการมาหลายรัฐบาล นานกว่า 10 ปี  เริ่มมีการเสนอโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี มาตั้งแต่รัฐบาล ดร.ทักษิณ  ชินวัตร จำนวนกว่า 3,000 คัน  ต่อเนื่องถึงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช  รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังไม่สำเร็จ จนมาถึงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เสนอโครงการนี้ให้ คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาใหม่อีกรอบ จนได้รับการอนุมัติเมื่อ 21 ต.ค.ปี พ.ศ. 2557 แต่ลดจำนวนรถเมล์ เหลือ 489 คัน วงเงิน 4,021.7 ล้านบาท 

จากนั้น ขสมก. เปิดประมูลหาเอกชนที่จะเป็นผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน  และได้ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ในวงเงินประมูล 3,389.71 ล้านบาท  ต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ 632 ล้านบาท โดยมีกำหนดส่งมอบรถเมล์ทั้งหมด ในวันที่ 29 ธันวาคม 2559 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2560 ให้แก่ประชาชน โดย เบสท์ริน กรุ๊ป มอบหมายให้บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า เป็นผู้นำเข้ารถเมล์ ลอตนี้  

จากนั้นวันที่ 1 ธันวาคม 2559 มีการนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี ลอตแรกเข้ามา 1 คัน และในเดือนเดียวกัน ก็นำเข้าลอตที่สอง อีก 99 คัน แต่กรมศุลกากร กักรถไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้ไม่สามารถนำรถออกมาส่งมอบให้ ขสมก. ได้  เนื่องจากกรมศุลกากร พบพิรุธจากหลักฐานแสดงการนำเข้าและจ่ายภาษีอากร โดยมีการสำแดงถิ่นกำเนิดสินค้า ที่เชื่อว่าอาจผลิตและประกอบสำเร็จมาจากประเทศจีน ไม่ตรงตามเอกสารที่บริษัท ซุปเปอร์ซ่าร่า ผู้นำเข้ารถเมล์ของ เบสท์ริน กรุ๊ป  แจ้งนำเข้าภายใต้สนธิสัญญาเขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศอาเซียนจากมาเลเซีย (ฟอร์มดี) ซึ่งกำหนดต้องใช้วัตถุดิบภายในประเทศสมาชิกอาเซียน 40%  จึงจะได้สิทธิ์ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งกรณีนี้ อาจเข้าข่ายหลบเลี่ยงภาษี  ทำให้รถทั้ง 100 คัน ต้องรอการตรวจสอบความชัดเจนและถูกต้อง

วันที่ 7 ธันวาคม 2559 นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ขีดเส้นให้บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ต้องส่งมอบรถเมล์ ตามสัญญากำหนดภายใน 29 ธ.ค. 2559 ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกปรับขั้นแรก 17,000 บาทต่อคันต่อวัน จนถึงยึดหลักประกัน มูลค่ากว่า 320 ล้านบาท  และอาจบอกเลิกสัญญา

จากนั้น วันที่ 8 ธันวาคม 2559 เบสท์ริน กรุ๊ป ออกมายืนยันว่า ได้สั่งซื้อรถเมล์เอ็นจีวีกับโรงงานประกอบรถยนต์ที่มาเลเซีย โดยมีเอกสารประกอบการนำเข้าที่โรงงานผู้ผลิตนำมาส่งให้ และเอกสารที่ยื่นแสดงต่อกรมศุลกากรเป็นของจริง เพราะเคยใช้เอกสารแบบเดียวกันนี้ยื่นต่อกรมศุลกากรมาก่อนแล้วรอบหนึ่ง

"เอกสารที่ออกโดยรัฐบาลมาเลเซีย ผมจึงมั่นใจความโปร่งใส่ของหน่วยงานภาครัฐของมาเลเซีย ตอนนี้เบสท์รินทำอะไรไม่ได้ ต้องรอการยืนยันความถูกต้องจากมาเลเซีย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว"  

13 ธันวาคม 2560 นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร  แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปว่า รถเมล์เอ็นจีวีลอตแรก 100 คัน ไม่ได้ประกอบในมาเลเซีย จึงเป็นการแจ้งถิ่นกำเนิดสินค้าเป็นเท็จ  บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า ต้องชำระค่าภาษีและค่าปรับให้กรมศุลกากร 370 ล้านบาท หรือวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มจำนวน ก่อนนำรถเมล์ออกจากท่าเรือ 

กระบวนการดำเนินเรื่อยมา จนสุดท้าย เบสท์ริน กรุ๊ป ยอมจ่ายภาษีนำเข้า 40% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%  และค่าปรับ 2 เท่า  รวมเป็นเงิน 4.8 ล้านบาท เพื่อนำรถออกมา 1 คัน  ส่วนอีก 99 คัน ยังไม่นำออก เพราะต้องภาษีและค่าปรับ สูงกว่า 300 ล้านบาท  ซึ่งไม่ทันกำหนดส่งมอบรถเมล์ให้ ขสมก. ในวันที่ 29 ธ.ค.2559

จึงกระทบต่อแผนการเดินรถเมล์ของ ขสมก. และทำให้ เบสท์ริน กรุ๊ป ต้องจ่ายค่าปรับ 1.7 หมื่นบาทต่อคัน หรือวันละ 8 ล้านบาท ตั้งแต่ 29 ธันวาคม เรื่อยมาจนกว่าจะครบเงินประกัน มูลค่ากว่า 320 ล้านบาท โดยที่ ขสมก. ยังไม่ได้ยกเลิกสัญญา

ส่วนรถเมล์เอ็นจีวี ลอตที่ 3 และ 4 อีก 389 คัน ไม่ได้ยื่นใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ออกโดยทางการมาเลเซีย จึงต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 40% ของราคานำเข้า  คิดเป็นมูลค่า 572 ล้านบาท หาก เบสท์ริน กรุ๊ป นำเงินหรือหลักทรัพย์มาชำระค่าภาษีและค่าปรับ 942 ล้านบาท กรมศุลกากรจะสามารถตรวจปล่อยรถเมล์เอ็นจีวีให้แก่บริษัท นำไปส่งมอบให้ ขสมก. ได้ภายใน 2 วัน

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวี ได้ทำหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาไปยัง เบสท์ริน กรุ๊ป แล้วตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2560 โดยจะมีผลวันที่ 9 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นการแจ้งล่วงหน้า 30 วันตามกระบวนการ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่สามารถส่งมอบรถให้ได้ตามสัญญา  แต่เบสรินท์ กรุ๊ป ยืนยัน ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว พร้อมกับทำหนังสือแจ้ง ขสมก. เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2560  ขอขยายเวลาส่งมอบรถออกไปอีก 15 วัน ขณะที่การริบเงินประกัน 320 กว่าล้านบาท ได้ครบวงเงินประกันไปตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา

ซึ่งคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและคณะกรรมการตรวจรับ จะประชุมพิจารณาข้อเสนอตามหนังสือของเบสท์รินในวันที่ 14 ก.พ.60 เพื่อหาข้อสรุปว่าจะส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาหรือขยายระยะเวลาการส่งมอบรถให้แก่ เบสท์ริน กรุ๊ป  

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog