Virtual Reality หรือความจริงเสมือนถือเป็นนวัตกรรมปฏิวัติวงการไอทีที่กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดได้เปิดโอกาสให้ศิลปินได้ใช้เทคโนโลยีนี้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่าง 'หลุดโลก' มากขึ้น
แว่นตา VR ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ให้รู้สึกเสมือนกับว่ากำลังอยู่ใน เหตุการณ์หรือสถานที่นั้นจริงๆ ส่วนใหญ่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างเกมและภาพยนตร์ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่อย่างกูเกิล เอชทีซี หรือซัมซุงได้จับมือกับผู้ผลิตซอฟท์แวร์เพื่อให้เทคโนโลยี VR มีประโยชน์ต่อวงการศิลปะด้วย
ที่เห็นอยู่ขณะนี้เป็นซอฟท์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานคู่กับแว่นตา VR โดยเมื่อผู้ใช้สวมใส่แว่นตาจะสามารถวาดภาพหรือสร้างโมเดลสามมิติได้ และยังเผยแพร่ผลงานในโลกออนไลน์ได้ทันที ซึ่งผู้ชมสามารถย้อนดูขั้นตอนการทำงานได้ตั้งแต่ต้น ถือเป็นการปฏิวัติวงการ ศิลปะยุคดิจิตัล
นอกจากนี้ Virtual Reality ยังถูกนำไปใช้ในด้านการท่องเที่ยวอย่างแพร่หลายอีกด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่งทั่วโลกได้ให้นักท่องเที่ยว สามารถใช้แว่นตา VR ขณะเดินชมสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งแว่นตาจะช่วยสร้างภาพประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในสมัยก่อนให้นักท่องเที่ยวได้เห็น อย่างเช่น ที่พระราชวังทองคำของจักรพรรดิเนโรในอิตาลี นักท่องเที่ยวจะได้รับแว่นตา VR คนละเครื่อง เมื่อใส่แว่นจะเห็นสภาพพระราชวังในศตวรรษที่ 1 ซึ่งนอกจากจะดูตื่นเต้นแล้ว ยังเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจความเป็นมาของโบราณสถานได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ การใช้แว่นตา VR ยังทำให้อุตสาหกรรมการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น โดยขณะนี้ มีการคิดค้นแอปพลิเคชัน SnowWorld โดยมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยที่มีแผลพุพอง สามารถเล่นปาหิมะและทำให้สมองผ่อนคลายขึ้นได้ ระหว่างทำการรักษาแผล ซึ่งขณะนี้เริ่มใช้ในคลินิกบางแห่งในสหรัฐฯแล้ว
นอกจากนี้ยังมี การใช้เทคโนโลยีดังกล่าว รักษาโรคโฟเบียหรือหวาดกลัวสิ่งต่างๆได้ เช่น หากหวาดกลัวการพูดในที่สาธารณะ แพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยโดยให้ผู้ป่วยพูดในที่สาธารณะในโลกเสมือนจริง