ความต้องการมันฝรั่งในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวสูงกว่าความสามารถในการผลิตเกือบร้อยละ 50 ทำให้เป๊ปซี่โค เดินหน้าส่งเสริมเกษตรกรในการปลูกมันฝรั่ง ซึ่งนอกจากช่วยลดภาระการนำเข้า ก็ยังสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างมั่นคง

ผลมันฝรั่งอายุ 60 วัน ที่เห็นอยู่นี้ คือผลผลิตจากแปลงสาธิตต้นแบบไร่มันฝรั่ง ของ บุญศรี ใจเป็ง เกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ผลมันฝรั่งนี้จะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือน มีนาคม ที่จะถึงนี้

บุญศรี เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งอย่างยั่งยืนภายใต้สัญญาข้อตกลงซื้อขายผลผลิตมันฝรั่งที่กำหนดราคารับซื้อแน่นอน หรือ คอนแทค ฟาร์มมิ่ง ของบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด หรือ เป๊ปซี่โค ผู้ผลิตมันฝรั่งทอดกรอบ "เลย์" / เขาได้รับมันฝรั่งสายพันธุ์ เอฟแอล 2027 และเอฟแอล 2215 เพื่อใช้ในการปลูก สายพันธุ์นี้ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้เหมาะสมกับการปลูกในเมืองไทย ผลผลิตที่ได้จึงมีความแข็งแรง ต้านทานโรค และให้แป้งสูง 

บุญศรีบอกว่า ผลมันฝรั่งจะต้องได้คุณภาพตามกำหนด โดยต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ไม่น้อยกว่า 4.5 เซนติเมตร และมีแป้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 18 ต่อผล อุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส ขณะที่ผลผลิตที่ได้จะอยู่ 4.5 ตันต่อไร่ ได้ราคารับซื้อประมาณ 10-14 บาทต่อกิโลกรัม ตามฤดูกาล โดยบุญศรีมีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 400 ไร่ 

การส่งเสริมเกษตรกรภายใต้คอนแทค ฟาร์มมิ่ง เป๊ปซี่โค จะสนับสนุนปัจจัยการผลิต ทั้งหัวพันธุ์ ปุ๋ยบำรุงดิน และสารกำจัดศัตรูพืชให้ก่อน เมื่อเกษตรกรนำผลผลิตมาขาย ก็จะหักค่าปัจจัยการผลิต เหลือเป็นรายได้คืนกลับไป ซึ่งช่วยลดภาระให้เกษตรกรไปในตัว

ทุกวันนี้ เป๊ปซี่โค ส่งเสริมเกษตรกรทั้งหมด 3,500 ราย ครอบคลุมพื้นที่ปลูก 22,000 ไร่ ใน 6 จังหวัดทางภาคเหนือ พร้อมตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกและมีผลผลิต 5 ตันต่อไร่ เพิ่มผลผลิตในประเทศและทดแทนการนำเข้า 

มันฝรั่งที่ผ่านการคัดสรรแล้ว ถูกป้อนเข้าสู่เครื่องจักรแปรรูป ผ่านขั้นตอนการล้าง ขัด ปอกเปลือก ฝานบาง ก่อนลงทอดในตู้ขนาดใหญ่ ส่งต่อไปปรุงรส เพื่อบรรจุถุง ซึ่งที่นี่มีความสามารถในการผลิต 100-120 ซองต่อนาที 

ทิศทางการดำเนินธุรกิจขนมขบเคี้ยวก้าวต่อไป จะเน้นการผลิตขนมขบเคี้ยวทางเลือกมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ตลาดขนมขบเคี้ยวในไทย ที่มีมูลค่าสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะมันฝรั่งทอดกรอบเลย์ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด

ปัจจุบัน ภาคอุตสาหกรรมไทยมีความต้องการมันฝรั่ง 120,000-150,000 ตันต่อปี แต่ไทยยังผลิตได้เพียง 106,000 ตัน เท่านั้น การพัฒนาหัวพันธุ์และศักยภาพเกษตรกร จึงเท่ากับเป็นการช่วยลดการนำเข้า และเพิ่มรายได้ให้เกษตกร เพราะมันฝรั่งสามารถสร้างกำไรให้กับผู้ปลูกได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 8,000-10,000 บาทต่อไร่