หลังจาก นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสนอแนวคิดเปลี่ยนป่าเต็งรัง ให้เป็นป่าดิบทั้งประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันน้ำท่วม เพราะพืชในป่าดิบมีความสามารถดูดซับน้ำได้ดีกว่า ทำให้ในวันนี้คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แถลงการชี้แจงข้อเท็จจริงและความเป็นไปได้ของแนวคิดนี้ 

 

รองศาสตราจารย์ นริศ ภูมิภาคพันธ์ อาจารย์คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ จัดอยู่ในประเภทป่าผลัดใบ สภาพโดยทั่วไปแห้งแล้ง ดินไม่มีคุณภาพ และเกิดไฟป่าบ่อยครั้ง ส่วนป่าดิบจัดอยู่ในประเภทป่าไม่ผลัดใบ สภาพโดยทั่วไปชุ่มชื้น ดินอุดมสมบูรณ์ และดูดซับน้ำได้ดีกว่า 

 

การเปลี่ยนป่าเต็งรังเป็นป่าดิบ ถือเป็นการทำลายระบบนิเทศและความหลากหลายทางธรรมชาติ เพราะสภาพพื้นที่แต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน อาจทำให้พันธุ์ไม้สำคัญในป่าประเภทนี้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้รัง หน่อไม้ และหญ้าปกคลุมผิวดิน ซึ่งจะส่งผลต่อสัตว์ป่าที่กินพืชเหล่านี้เป็นอาหาร เช่น ช้าง กระทิง และวัวแดง

 

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดอกรัก มารอด อาจารย์คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การนำพันธุ์ไม้ในป่าดิบมาปลูกในป่าเต็งรังเป็นเรื่องยาก เพราะจะต้องใช้น้ำมหาศาลเพื่อสร้างความชุ่มชื้นในดิน และต้องป้องกันไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจากสภาพพื้นที่แห้งแล้ง จึงเสนอแนะให้รัฐบาลหันมาฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม หรือพื้นที่รกร้าง ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เพราะเป็นแนวทางที่เหมาะสม และมีความเป็นได้มากกว่า

 

สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ รองศาสตราจารย์วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวย้ำว่า ไม่ต้องการชี้นำสังคมหรือรัฐบาล แต่เป็นการนำเสนอข้อมูลทางวิชาการและข้อเสนอแนะเท่านั้น เนื่องจากมีสื่อมวลชนสอบถามถึงกรณีนี้เข้ามาที่คณะวนศาสตร์จำนวนมาก ส่วนแนวคิดนี้จะดำเนินการจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล