เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ประจำปี 2559 ที่สร้างความทุกข์โศกให้ประชาชนชาวไทยมากที่สุด และนับเป็นความเสียใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 คือการสวรรคตจองพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ถ้อยคำสรรเสริญพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในแถลงการณ์สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเผยแพร่ทั่วประเทศ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 นับเป็นการสรรเสริญพระเกียรติคุณ ที่โศกเศร้าที่สุด เท่าที่เคยเกิดขึ้นในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ตอกย้ำว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สวรรคตแล้ว สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติ ประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อปวงชนชาวไทย เป็นเวลา 70 ปี

นี่คือห้วงเวลาหลังประชาชนทราบข่าวการเสด็จสวรรคต หยาดน้ำตาที่ไหลไม่รู้จบสิ้น พร้อมเสียง 'ทรงพระเจริญ'  สะท้อนก้องโรงพยาบาลศิริราช บ้างสลับความเงียบงันดุจโลกไร้การเคลื่อนไหว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกเราว่า  การจากไปของพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย  เป็นความจริงที่ยากเกินจะรับได้ หากขณะเดียวกัน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงจากไปเพียงพระวรกาย  แต่พระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ จะยังงอกงามในใจของปวงชนชาวไทย ไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา

14 ตุลาคม 2559 เส้นทางเคลื่อนขบวนพระบรมศพ ตั้งแต่โรงพยาบาลศิริราชถึงพระบรมมหาราชวัง ถูกจับจองโดยชาวไทยนับหมื่นนับแสนคน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด แม้ต้องใช้เวลารอเนิ่นนานเพียงใด ก็ไม่สามารถทำลายความตั้งใจที่จะส่งเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เป็นวาระสุดท้ายได้  ประชาชนที่ร่วมส่งเสด็จด้วยกัน เล่าให้ฟังว่า เส้นทางเสด็จจากโรงพยาบาลศิริราช เป็นจุดที่เธอนั่งรับเสด็จหลายครั้งต่อหลายครั้ง การส่งเสด็จครั้งยิ่งใหญ่สุดท้าย  จึงเป็นโอกาสที่ยากจะพลาดไปในชีวิตนี้

'มหาสมุทรสีดำ' หรือ 'แบล็ก โอเชียน'  เป็นคำเปรียบเปรยจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย วันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความเศร้าโศรกเสียใจของคนไทย ซึ่งกำลังสูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง  แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นพระบารมีอันยิ่งใหญ่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ  ที่ทรงสั่งสมมาตลอด 70 ปี แห่งการเสด็จผ่านพิภพเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย ด้วยทศพิธราชธรรม ตลอดจนพระอัจฉริยภาพหลากหลายแขนง 

ทว่า 'แบล็ก โอเชียน' ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียง 1 วัน 2 วัน หลังการสวรรคตเท่านั้น เพราะทุกวันนี้ ประชาชนจากทั่วสารทิศ ยังทยอยเดินทางมายังท้องสนามหลวงตั้งแต่เช้ามืดจนค่ำมืดดึกดื่น  เพื่อกราบถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมจิตอาสา หลากหลายประเภท เพียงเพื่อได้ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลนั่นเอง