ไม่พบผลการค้นหา
เหลือไม่ถึง 3 เดือน ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารมหานคร แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า คดีนี้จะหมดอายุความโดยที่ไม่สามารถจับกุมได้ เหมือนคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย ที่ผู้ต้องหาเป็นน้องชายอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย

ตำรวจยังมีเวลาเหลือไม่ถึง 3 เดือนในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารมหานคร แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า คดีนี้จะหมดอายุความโดยที่ไม่สามารถจับกุมได้ เหมือนคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย ที่ผู้ต้องหาเป็นน้องชายอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย  ติดตามย้อนรอยคดีที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ 

 
ส่วนหนึ่งของรายงานการสอบสวนคดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งความดำเนินคดีกับนางภคินี สุวรรณภักดี อดีตรองกรรมการ ผู้จัดการสายสินเชื่อธนาคารมหานครและพวกรวม 4 คนโดยระบุถึงพฤติกรรมที่กลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 354 และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 307/311 /313 และ 315 ในฐานะผู้ดำเนินงานของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 
 
ตามคำฟ้องระบุว่า เหตุเกิดระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2538 ถึง 30 ตุลาคม 2540 ต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหาที่ 1-3 ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ต้องหาที่ 4 และบริษัทในเครือ และบุคคลอื่นที่เปิดบัญชีไว้แทนผู้ต้องหาที่ 4 ทั้งหมด 7 บัญชี จำนวน 33 ครั้ง จ่ายเงินไป 144 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,195 ล้านบาท โดยผู้ตรวจการของธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาที่ 4 มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียง 47 ล้านบาท และพบอีกว่า เป็นการอนุมัติสินเชื่อเกินอำนาจของผู้ต้องหา รวมทั้งได้จ่ายสินเชื่อไปก่อนที่คณะกรรมการบริหารธนาคารจะอนุมัติ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนและสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต่ออัยการเมื่อปี 2548 แต่ในช่วงที่อัยการจะส่งสำนวนฟ้องต่อศาล นางภคินี ผู้ต้องหาที่ 3 ได้หลบหนี กระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับวันที่ 25 ธันวาคม 2549
 
ตำรวจยืนยันว่า ได้ใช้ความพยายามในการจับกุม แต่ไม่สามารถจับกุมได้ ซึ่งคดีจะหมดอายุความในวันที่ 30 ตุลาคมนี้  และมีการคาดการณ์ว่า จะไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกกฎหมายได้ เหมือนกรณีคดีฉ้อโกงทรัพย์สินของธนาคารกสิกรไทย สาขาจังหวัดสงขลา มูลค่าความเสียหาย 200 ล้านบาท ซึ่งมีนายระลึก หลีกภัย น้องชายคนเล็กของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหาเมื่อครั้ง เป็นผู้จัดการสาขา โดยคดีเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2537 และผู้ต้องหาหลบหนีในช่วงที่พี่ชายเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 2 ครั้งจนกระทั่งคดีหมดอายุความในช่วงปี 2547    
 
ตำรวจยอมรับว่า การจับกุมผู้ต้องหาที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนักการเมืองเป็นไปอย่างยากลำบาก จนกระทั่งบางครั้งคดีขาดอายุ ความ แม้คดีนั้นจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติจำนวนมากก็ตาม       
                          
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog