อุตสาหกรรมท่องเที่ยวตุรกีซบเซา ทำนักท่องเที่ยวหาย โรงแรมต้องปลดพนักงานกว่าร้อยละ 40 ออกจากงาน และบางแห่งปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวนี้เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ตุรกีเป็นประเทศหนึ่งที่พึ่งพิงรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก โดยแต่ละปี การท่องเที่ยวจะนำรายได้เข้าตุรกีถึงปีละกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1 ล้านล้านบาท แต่ว่าการท่องเที่ยวตุรกีตอนนี้กำลังย่ำแย่ จากสถานการณ์ในประเทศที่ดูไร้ความมั่นคง จากระเบิดที่เกิดขึ้นหลายครั้งทั่วประเทศ ทั้งในกรุงอังการา และนครอิสตันบูล รวมถึงในสนามบินนานาชาติด้วย นอกจากนี้ยังมีความพยายามก่อรัฐประหาร ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาตุรกีน้อยลงเรื่อยๆ 

ตุรกีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรป รัสเซีย และอาหรับ แต่ว่ายอดจองห้องพักในตุรกีตอนนี้ ถือว่าต่ำที่สุดในยุโรป สมาคมผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในตุรกีรายงานว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ยอดจองห้องพักโดยเฉลี่ยของโรงแรมในตุรกีอยู่ที่ร้อยละ 50.4  โรงแรมบางแห่งที่มียอดจองห้องพักน้อยมาก จะอยู่ที่ราวร้อยละ 30 ขณะที่รายได้ของโรงแรมร่วงลงกว่าร้อยละ 42 หากเทียบกับปีที่แล้ว จนโรงแรมในตุรกีจำเป็นต้องปลดพนักงานกว่าร้อยละ 40 บางแห่งถึงขั้นปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ส่วนโรงแรมในนครอิสตันบูลต่างก็พร้อมใจกันลดราคาค่าห้อง จากเดิมที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 124 ยูโร หรือ 4,700 บาท ต่อคืน เหลือ 99 ยูโร หรือ 3,800 ต่อคืน ขณะนี้โรงแรมหลายแห่งกำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง จนไม่อาจจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับธนาคารได้ ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายต่างก็พยายามประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ เพราะเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวในตุรกีจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในเร็วๆนี้