ไม่พบผลการค้นหา
ช่องแคบฮอร์มุซ มีความสำคัญทั้งในแง่ของการเป็นจุดยุทธศาสตร์ และเป็นแหล่งสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ตะวันออกกลาง

หากร่างกฎหมายที่ เสนอให้มีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ได้รับการรับรองจากรัฐสภาอิหร่าน อาจจะทำให้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ต่อการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง ไปยังประเทศต่างๆของโลก ดังนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่องแคบฮอร์มุซ มีความสำคัญทั้งในแง่ของการเป็นจุดยุทธศาสตร์ และเป็นแหล่งสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ตะวันออกกลาง 

 
ช่องแคบฮอร์มุซ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของอิหร่านมาเป็นเวลานาน คือเครื่องมือสำคัญ ที่อิหร่านใช้ต่อรองทางการเมืองกับชาติตะวันตก เพราะช่องทางดังกล่าว คือช่องทางสำคัญ ที่ผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง ใช้ส่งน้ำมันออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ จนหลายฝ่ายยกย่องให้ช่องแคบฮอร์มุซ เป็นเหมือนกับแหล่งส่อต่อพลังงานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
 
ปัจจุบัน เรือทุกลำที่ต้องเข้าออก โดยอาศัยเส้นทางของช่องแคบฮอร์มุซ จะต้องได้รับอนุญาตจากกองทัพเรืออิหร่านก่อน จึงจะใช้เส้นทางดังกล่าวได้ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้น อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของอิหร่าน แม้ว่าอิหร่านจะยอมรับในข้อตกลงของสหประชาชาติเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้น่านน้ำร่วมกันอย่างเสรี แต่ดูเหมือนว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวมากนัก
 
การขู่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซของอิหร่านในครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็ทำให้หลายฝ่ายแสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่องแคบฮอร์มุซ คือแหล่งสร้างรายได้สำคัญของภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่ในแต่ละวัน มีการขนส่งน้ำมันโดยเฉลี่ยถึง 17 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็นปริมาณ 1 ใน 3 ของการขนส่งน้ำมันทั้งหมดบนโลก ซึ่งนอกจากน้ำมันแล้ว ก๊าซธรรมชาติก็ถูกลำเลียงจากตะวันออกกลางไปยังยุโรป โดยอาศัยช่องทางดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบัน ก๊าซธรรมชาติถือเป็นพลังงานที่สำคัญที่สุด ที่เกือบทุกประเทศในยุโรปต้องพึ่งพารองจากน้ำมัน
 
อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ก็ได้พยายามหาทางแก้ไขปัญหา หากว่าอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซขึ้นมาจริงๆ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางการซาอุดีอาระเบีย ได้ประกาศเปิดท่อส่งน้ำมันที่สร้างไว้โดยรัฐบาลอิรักอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นช่องทางในการส่งน้ำมันดิบจากทะเลแดงไปยังอ่าวเปอร์เซีย โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเชื่อว่า วิธีการดังกล่าว จะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน ในยามที่อิรักปิดช่องแคบฮอร์มุซได้
 
โดยท่อส่งน้ำมันดังกล่าว สร้างขึ้นโดยรัฐบาลอิรักตั้งแต่ปี 2523 แต่ในช่วงสงครามอิรัก-อิหร่าน ท่อส่งน้ำมันแห่งนี้เสียหายหนักจากการถูกโจมตี จนกระทั่งปี 2544 รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้เข้าไปบูรณะฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนที่เสียหายทั้งหมด พร้อมกับจ่ายเงินให้รัฐบาลอิรัก เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของท่อส่งน้ำมันดังกล่าว
 
ขณะเดียวกัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็กำลังก่อสร้างท่อส่งน้ำมันแห่งใหม่ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้การขนถ่ายน้ำมันจากแหล่งผลิตน้ำมันอันห่างไกลในกรุงอาบูดาบี มายังมหาสมุทรอินเดียได้อย่างง่ายดาย โดยท่อส่งน้ำมันแห่งใหม่นี้ มีความยาว 380 กิโลเมตร สร้างขึ้นอ้อมช่องแคบฮอร์มุซ มายังปากอ่าวเปอร์เซีย ก่อนที่จะมาสิ้นสุดที่ท่าเรือบริเวณมหาสมุทรอินเดีย
 
จะเห็นได้ว่า หลายประเทศซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันส่งออกรายใหญ่ของโลก ต่างก็พยายามปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเปอร์เซีย และเตรียมความพร้อมหากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งคงต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิดว่า ท้ายที่สุด ชาติตะวันตกจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร และอิหร่านจะปิดช่องแคบดังกล่าวเมื่อไหร่ เพราะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมานั้น คงเป็นสิ่งที่ประชาคมโลกหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน
 
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog