ไม่พบผลการค้นหา
'นพดล' ยอมรับเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯพลิกล็อค เพราะชาวอเมริกันต้องการการเปลี่ยนแปลง เชื่อสหรัฐฯไม่ทิ้งไทยเพราะมีความแน่นแฟ้นมากมาเกือบ 200 ปี แต่ไทยก็ต้องมาปรับปรุงตัวเองด้วย เช่นต้องเดินหน้าตามโรดแมปสู่การเลือกตั้ง

'นพดล'  ยอมรับเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯพลิกล็อค เพราะชาวอเมริกันต้องการการเปลี่ยนแปลง เชื่อสหรัฐฯไม่ทิ้งไทยเพราะมีความแน่นแฟ้นมากมาเกือบ 200 ปี แต่ไทยก็ต้องมาปรับปรุงตัวเองด้วย เช่นต้องเดินหน้าตามโรดแมปสู่การเลือกตั้ง
          
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกมาปรากฎว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรคริพับลิกัน เอาชนะ นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคแดโมแครต ว่า ถือว่าพลิกล็อค เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของทุกฝ่ายทั้งประชาชน สื่อมวลชนสหรัฐ และผู้สนับสนุนคลินตัน โดยเฉพาะโพลต่าง ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ สาเหตุนั้นน่าจะมาจากเหตุ 3 อย่างคือ ป.,อ.,บ. ซึ่ง ป.ก็คือ ประชาชนสหรัฐต้องการเปลี่ยนแปลง เพราะอยู่กับประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตมา 8 ปี  ส่วน อ. ก็คือ อยากได้นโยบายโดนใจซึ่งนโยบายของทรัมป์ ถือว่าตรงใจคนสหรัฐที่ต้องการ เช่นการสร้างงาน อยากได้การดูแลประโยชน์ของคนอเมริกัน ประโยชน์ของสหรัฐต้องมาก่อน และสุดท้าย บ.คือคนเบื่อการเมืองแบบเดิม ๆ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสาเหตุหลักในการหักปากกาเซียนทั้งหลาย
          
นายนพดล กล่าวอีกว่า สำหรับต่อประเทศไทย คิดว่าสหรัฐคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ มีความแน่นแฟ้นมากมาเกือบ 200 ปี สหรัฐยังเห็นไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญอยู่ในภูมิภาคนี้  ขณะที่ไทยเองก็ยังต้องการสหรัฐฯ ในแง่ของการส่งออกสินค้าที่สำคัญ แต่ประเด็นที่อาจจะเป็นผลดีต่อประเทศไทยอย่างหนึ่งก็คือในเรื่องของสิทธิมนุษยชนอาจจะลดน้อยลง เพราะพรรคลิพับลิกันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ไม่เท่าพรรคเดโมแครต ดังนั้นอาจจะมีการผ่อนคลายประเด็นเหล่านี้ที่จะมาโยงกับเรื่องการค้า แต่อย่างไรก็ตามการมีประธานาธิบดีใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์โดยอัตโนมัติ เพราะไทยก็ต้องมาปรับปรุงตัวเองด้วย เช่นต้องเดินหน้าตามโรดแมปสู่การเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยเร็ว ความสัมพันธ์ก็จะแน่นแฟ้นเหมือนเดิม
          
นายนพดล กล่าวอีกว่า สำหรับผลกระทบกับโลกนั้น ถือว่าเดายาก เนื่องจากทรัมป์ประกาศไม่เอาตามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (ทีพีพี) ดังนั้นก็อาจจะมีผลกระทบในระดับหนึ่งทางด้านการค้า รวมถึงการที่ทรัมป์จะเข้มงวดกับจีน กรณีที่จีนไปตีตลาดส่งสินค้าราคาถูกไปที่อเมริกา ทรัมป์อาจจะเข้มงวดเช่นเพิ่มภาษีมากขึ้น ซึ่งก็อาจจะทำให้จีนส่งสินค้าไปน้อยลง ซึ่งประเทศไทยก็อาจจะได้รับผลกระทบทางอ้อม เพราะไทยส่งวัตถุดิบไปจีน อย่างไรก็ตามที่น่าสนใจคือทรัมป์จะลดบทบาทสหรัฐในเวทีโลกแล้วหันไปดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐให้มากขึ้น

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog