องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ระบุว่า ขณะนี้จำนวนเสือดาวหิมะทั่วโลกลดลงอย่างต่อเนื่องจนเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยมีสาเหตุมาจาก การถูกฆ่าโดยเกษตรกรที่ทำการเกษตรในแถบที่มีเสือดาวหิมะบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ และการค้าขายสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย 

 เสือดาวหิมะ เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามแถบที่หนาวเย็น มีหิมะปกคลุม พบได้ในภูมิภาคตอนกลางของเอเชีย มีจุดเด่นอยู่ที่ขนของมันจะยาวและฟูมาก เนื่องจากต้องป้องกันตัวเองจากความหนาวเย็น ซึ่งรายงานล่าสุดได้สร้างความกังวลว่าสัตว์ชนิดนี้กำลังเสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์

องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลหรือ WWF คาดการณ์ว่า ปัจจุบันว่ามีเสือดาวหิมะเหลืออยู่บนโลกเพียง 4,000 ตัว โดยเป็นจำนวนที่ลดลงถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับ16 ปีก่อน ในแต่ละปีมีเสือดาวหิมะถูกฆ่าประมาณ 220 - 450 ตัว และยังเชื่อว่าตัวเลขของจำนวนเสือดาวหิมะที่ถูกฆ่าอาจสูงกว่านี้อีก เนื่องจากบางพื้นที่เช่นในพื้นที่ห่างไกลอาจยังไม่ถูกตรวจพบ 

สาเหตุของการถูกฆ่านั้น มากกว่าครึ่งหนึ่งถูกฆ่าโดยเกษตกร โดยพวกเขามักเรียกเสือดาวหิมะเหล่านี้ว่าเป็นผีประจำภูเขา และจำเป็นต้องฆ่าเนื่องจากเสือดาวหิมะเข้ามาบุกรุกฟาร์มปศุสัตว์ของพวกเขา  และอีก 20% เสียชีวิตจากกับดักที่วางไว้ และอีก 20% ถูกฆ่าเพราะถูกนำไปค้าขายอย่างผิดกฎหมาย  

WWF ได้แนะนำวิธีป้องกันการสูญพันธุ์โดยให้เกษตรกรในแถบเทือกเขาหิมาลัยล้อมคอกปศุสัตว์ของตนเองให้แน่นหนา เพื่อป้องการการล่วงล้ำพื้นที่ และมีการดำเนินคดีผู้ที่ฆ่าเสือดาวหิมะอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยเสือดาวหิมะกว่า 90% อาศัยอยู่ในประเทศจีน มองโกเลีย ปากีสถานและอินเดีย ขณะที่ จีนและรัสเซีย ถือเป็นจุดหมายปลายทางของการส่งออกเสือดาวหิมะผิดกฎหมาย ส่วนในอัฟกานิสถานถือเป็นตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดในการค้าขายเสือดาวหิมะ