"บ้านแม่ส่วยอู" ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดตั้งขึ้นเเพื่อให้เป็นหมู่บ้านยามชายแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อพัฒนาราษฎรในพื้นที่ให้เข้มแข็ง มีส่วนเสริมสร้างระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณแนวชายแดนในพื้นที่
"อุทิศ ตยาดีทาน" ผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยเสือเฒ่า และบ้านบริวาร บ้านแม่ส่วยอู ตำบลผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เล่าว่า บ้านยามชายแดนแม่ส่วยอู เกิดขึ้นจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงห่วงใยปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรตามแนวชายแดน
ดังนั้น เมื่อทั้งสองพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานในพื้นที่ภาคเหนือ จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้แต่ละฝ่าย หาแนวทางจัดตั้งหมู่บ้านในรูปแบบ "บ้านยามชายแดนด้านทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน" เพื่อพัฒนาราษฎรในพื้นที่ให้เข้มแข็ง มีส่วนร่วมในการรักษาอธิปไตยของชาติอย่างมีระบบ และให้หาราษฎรชาวไทยภูเขา ที่สมัครใจไปเป็นยาม ตามแนวชายแดน
วันที่ 13 กรกฎาคม ปี พ.ศ.2542 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริเพิ่มเติม กำหนดให้หมู่บ้านยามชายแดน เป็นหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นใหม่บนภูเขา และสามารถทำการเกษตรได้ มีแหล่งน้ำที่เพียงพอ โดยให้กองทัพภาคที่ 3 จัดส่งกำลังเข้าไปช่วยฝึกอบรมระบบป้องกันภัย ฝึกการรายงานข่าว เพื่อให้ราษฎรช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ
พร้อมกับให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ เข้าไปช่วยสนับสนุนอาชีพ ทั้งเกษตรกรรมการปศุสัตว์ เพื่อมีรายได้เพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปี รวมทั้งปลูกไม้ผลยืนต้น พืชสมุนไพร เพื่อเป็นแหล่งอาหารและยา ตามแนวทางธนาคารอาหารชุมชน หรือ FOOD BANK
โครงการพระราชดำริดังกล่าว ทำให้เกิดการตั้งถิ่นฐานถาวรตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน และมีสถานภาพเป็นหมู่บ้านที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีกำหนดแนวเขตแดนที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการกระทบกระทั่งและความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีหมู่บ้านยามชายแดน 4 แห่ง ประกอบด้วย บ้านปางคอง และบ้านอาโจ้ ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า บ้านดอยผักกูด ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย และบ้านแม่ส่วยอู ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน