การเตรียมการถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงสรรเสริญพระบารมีที่มีนักร้องมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ลบตำราการถ่ายทำภาพยนตร์อย่างที่เคยเป็นมา ถือเป็นการเตรียมการทีมโปรดักชั่นและการบรรเลงเพลงที่ใช้เวลาน้อยที่สุด
    
แสงแดดที่สาดลงมานับตั้งแต่พระอาทิตย์รุ่งเช้าทำงาน เกิดขึ้นพร้อมกับการเคลื่อนไหวของช่างภาพ ช่างไฟ และนักดนตรี ที่ซักซ้อมรอบสุดท้ายก่อนจะขึ้นแสดง เสียงเชลโล ไวโอลิน เครื่องเป่า และเครื่องสายอื่นๆ ดังไม่เป็นจังหวะนักในตอนนี้ ต่างคนต่างมุ่งมั่นในเสียงเครื่องดนตรีของตัวเอง เตรียมขึ้นโชว์เพลงสรรเสริญพระบารมีถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นครั้งสุดท้าย 
    
ผู้จัดการวงออร์เคสตราเฉพาะกิจ ผู้รวบรวมนักดนตรี ทั้งจากวงดุริยางค์ Siam Philharmonic 193 ชีวิต รวมกับนักดนตรีมืออาชีพ และมือสมัครเล่น รวมแล้วมากกว่า 250 ชีวิต ให้มาอยู่รวมกันที่นี่ เขาบอกว่า ไม่เคยดูแลวงออเคสตร้าวงใหญ่ขนาดนี้มาก่อน เช่นเดียวกับวาทยากรผู้เป็นศิลปินแห่งชาติ ก็ยอมรับว่า นี่ไม่ใช่แค่การแสดงดนตรี 2 นาที แต่สิ่งที่เห็นวันนี้คือประเทศเราแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยสามารถมีเสียงเดียวได้ มีความสามัคคีได้ 
    
กล้องวีดีโอศักยภาพสูงกว่า 200 ชุด จากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนต์ไทย,โปรดักชันเฮาส์ ผู้กำกับมือดี ช่างภาพ และผู้ช่วยช่างภาพ รวมเกือบ 1,000 คน ประจำตามจุดต่างๆรอบสนามหลวง ระดมพลกันมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ภายในเวลาไม่กี่วัน 
    
โดรนติดตั้งชุดกล้องวีดีโอและกล้องเครนที่มีความสูงระดับเกือบ 10 เมตร ผ่านการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว ถูกติดตั้งรอบพระบรมมหาราชวังเพื่อเก็บภาพมุมสูงของประชาชนให้ได้กว้างไกลที่สุด  

และนี่คือกล้องศักยภาพสูง สเตรดี้ แคม อะเล็กซ่า มินิ (steadicam) มูลค่ารวมทั้งชุดกว่า 1,000,000 บาท ที่บริษัทโปรดักชั่น เฮาส์ นำมาใช้เก็บภาพประชาชน ณ จุดประตูวิเศษไชยศรี การทำงานของทีมนี้ ยังคงความเป็นมืออาชีพตามแบบฉบับของคนทำหนัง ภาพที่ดีที่สุดคือสิ่งที่พวกเขาจะบันทึกไว้ทุกวินาที 
         
ผู้ริเริ่มโครงการนี้ อย่างหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าวว่า การเตรียมงานเกิดขึ้นเร็วมากเพียงวันเดียว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยใจ และภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2559 เพลงสรรเสริญพระบารมีที่มีจำนวนคนร้องมากที่สุดในโลก พร้อมเปิดในโรงภาพยนตร์ไทยทุกแห่ง แม้จะเป็นแค่ช่วงหนึ่งก็ตาม 
    
ภาพประวัติศาสตร์วันนี้ เป็นการรวมตัวกันของพสกนิกร จัดทำภาพยนตร์ประกอบเพลงสรรเสริญพระบารมี ด้วยงบประมาณถูกที่สุดในโลก เพียง 0 บาท แต่มูลค่าของงานชิ้นนี้ไม่สามารถประเมินค่าได้ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยแรงพลังแห่งความรัก ที่พสกนิกรชาวไทย ร่วมกันใช้ "หัวใจ" เปล่งเสียงนี้ หวังเพียงให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล ซึ่งประทับอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง ทรงได้ยิน