ไมโครนีเซีย ในหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิก อาจกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากมีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์ต่อทั้งสองประเทศ
สหพันธรัฐไมโครนีเซีย อาจเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูคนไทยมากนัก ประเทศนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก มีผืนแผ่นดินรวมกันทั้งหมดเพียง 702 ตารางกิโลเมตร หรือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร แต่ครอบคลุมอาณาเขตทางทะเลอย่างกว้างขวาง ซึ่งนั่นหมายความว่า ไมโครนีเซียมีทรัพยากรในท้องทะเลปริมาณมหาศาล และยังไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์มากนัก
เขตเศรษฐกิจจำเพาะของไมโครนีเซียครอบคลุมพื้นที่ถึง 2,500,000 ตารางกิโลเมตร และถือเป็นทะเลที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากใกล้กับประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านทรัพยากรก็อุดมไปด้วยปริมาณปลาจำนวนมาก ที่มีศักยภาพสำหรับการส่งออกและสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับจีนและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
ปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ต่างดึงดูดให้ทั้งจีนและสหรัฐฯ เข้าไปสร้างความสัมพันธ์และให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ไมโครนีเซีย
สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับไมโครนีเซีย ในฐานะรัฐที่มีความสัมพันธ์กันอย่างอิสระ ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ลงนามกันตั้งแต่ปี 2529 ซึ่งมีการต่ออายุและมีผลบังคับใช้ถึงปี 2566 จากข้อตกลงดังกล่าว สหรัฐฯ ได้มอบความช่วยเหลือแก่ไมโครนีเซียเป็นเงินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ รวมทั้งการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สาธารณสุข การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนสิ่งแวดล้อม
ในทางกลับกัน สหรัฐฯ ได้รับมอบอำนาจในการสั่งการในด้านกลาโหมเพื่อปกป้องอธิปไตยของหมู่เกาะและน่านน้ำของไมโครนีเซีย
ทางด้านประเทศจีนก็หันมาพัฒนาความสัมพันธ์กับไมโครนีเซียด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่ปี 2543 จีนใช้เงินในการลงทุนสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับไมโครนีเซียเป็นเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการให้เงินสนับสนุนแก่ภาคเศรษฐกิจเช่นเดียวกับสหรัฐฯ และอีกส่วนหนึ่งจีนนำเงินไปลงทุนในทรัสต์ฟันด์ (Trust Fund) ซึ่งเป็นการวางแผนระยะยาวเพื่อไม่ให้รัฐบาลไมโครนีเซียประสบปัญหาด้านการคลังหลังจากที่ข้อตกลงด้านความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ หมดอายุลง