ไม่พบผลการค้นหา
'ยิ่งลักษณ์' ทำน้ำท่วม = บริหารงานผิด! พอถึง 'ประยุทธ์' บอกเป็นภัยธรรมชาติ

เป็นประจำของทุกปีในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม จะต้องมีข่าวสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้นในภาคกลาง ที่แน่นอนในจังหวัดราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ จ.สุโขทัย ลงมาถึง กรุงเทพมหานคร และเพื่อเป็นการทดสอบการบริหารจัดการน้ำของแต่ละรัฐบาลว่าจะมีการเตรียมการป้องกัน ดูแลประชาชน และเยียวยาอย่างไรกับปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นซ้ำซากในทุก ๆ ปี

 

แม้มหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 จะเกิดขึ้นและผ่านมาแล้ว 5 ปีก็ตาม แต่สังคมก็ยังหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาโจมตีเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยการฟ้องร้องไปยังป.ป.ช.ว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ซึ่งพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกฯรัฐบาลได้ชี้แจงว่าบริหารจัดการน้ำรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีความผิดพลาด ด้วยการระบายน้ำที่ไร้การวางแผน จนเป็นเหตุทำให้น้ำท่วมขังเป็นเดือน ไล่ลงมาตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงกรุงเทพฯสร้างความเสียหายให้ประเทศมหาศาล และประเด็นการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่โปร่งใส มีข้อครหาในการจัดสรรงบประมาณเพื่อบริหารจัดการน้ำ

 

 

อย่างไรก็ตามทางพรรคเพื่อไทย โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯกำกับการดูแลด้านน้ำ ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นนี้ว่าไม่ได้เกิดจากการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด แต่เกิดจากภัยธรรมชาติ ที่เป็นอุทกภัยสูงสุดใน 100 ปี ฝนตกมาก ถึง 1,781 ม.ม. ซึ่งมากกว่าค่าปรกติ 35 เปอร์เซ็นต์ หรือ 407 ม.ม. หากคิดเป็นน้ำก็คือมากกว่าเดิมถึง 46,000 ล้านลูกบาศก์เมตร นี่หละครับตัวปัญหา กรมชลประทานเคยประเมินว่าแค่ 16,000 ล้าน ลบ.ม. ที่ท่วมกรุงเทพฯ ตอนนั้นต้องใช้เวลาถึง 45 วันในการระบาย

 

 

อีกประเด็นหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยออกมาชี้แจงถึงสาเหตุมหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 อย่างหัวชนฝา ก็คือปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆมีระดับน้ำสูง หรือน้ำแทบจะเต็มเขื่อนก่อนที่รัฐบาลเพื่อไทยจะเข้ามาบริหารงานเสียอีก ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เคยออกมาตัดพ้อกล่าวถึงประเด็นนี้ในขณะรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2554 ว่าเขื่อนที่เก็บกักน้ำเต็มหมดแล้วจะเอาน้ำไประบายที่ไหน 

 

 

อย่างไรก็ตามพอมาถึงปี 2559 สถานการณ์อุทกภัย ส่อแววจะเหมือนปี 2554 เพราะสถานการณ์น้ำในหลายจังหวัดคล้ายคลึงกับปี 54 รวมถึงในกรุงเทพมหานครที่มีฝนตกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เกิดน้ำท่วมขัง รอการระบาย และทำให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างสาหัส สากรรจ์ ซึ่งหลายหน่วยงานก็ต่างออกมายืนยันแล้วว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้จะไม่ซ้ำรอยปี 2554 อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่วายน้ำก็ขึ้นท่วมจังหวัดราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างพระนครศรีอยุธยาไปจนถึงชัยนาท จนทำให้มีการปรับลดประมาณการณ์ สถานการณ์น้ำท่วม ที่ยืนยันว่า 'กรุงเทพมหานคร' น้ำจะไม่ท่วมเหมือนปี 54 

 


นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ว่า วันนี้สื่อต้องเข้าใจไม่ใช่เสนอข่าวประเดประดังว่าน้ำท่วมที่นั่นที่นี่ บางครั้งก็เป็นแค่ภาพเก่า วันนี้มันมีน้ำอยู่สองตอนที่จะต้องรู้ คือน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา กับใต้เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งน้ำเหนือเขื่อนนั้นไหลผ่านหลายจังหวัด หลายแม่น้ำ และระบายไปไหนไม่ได้ เพราะมีประชาชนบางส่วนไม่ให้ระบาย กลัวจะท่วมพื้นที่ ทั้งที่บอกว่าจะเยียวยาให้ก็ไม่เอา แต่ถ้าน้ำน้อยก็ไม่ให้ปล่อย ต้องไปใช้ข้างบนก่อน ข้างล่างก็จะแล้ง เป็นการไม่เข้าใจระบบ แล้วก็ถ่ายรูปตรงที่มีปัญหาน้ำแล้ง แล้วบอกรัฐบาลไม่ดูแล พอตรงนี้ท่วมก็ไปถ่ายมา ถามว่าสาเหตุทั้งท่วม ทั้งแล้งนั้นเกิดจากอะไร ไม่ได้โทษชาวบ้าน แต่โทษธรรมชาติ แล้วการบริหารจัดการน้ำทำได้หรือไม่ 

 

อย่างไรก็ตามต้องติดตามว่าปัญหาอุทกภัยในปีนี้จะเกิดจาก 'การบริหารจัดการน้ำผิดพลาด' หรือ 'ภัยธรรมชาติ' นั้น ต้องติดตามกันต่อไป รวมถึงฝีมือในการแก้ไขปัญหา เยียวยาจากผู้ที่ประสบอุทกภัยไปแล้ว ว่าจะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของรัฐบาลคสช.แล้ว เพื่อไม่ให้ฝ่ายต่างๆออกมาโจมตีได้ว่าเกิดจากการบริหารจัดการน้ำผิดพลาด แต่เป็นการยืนยนัว่าเกิดจากภัยธรรมชาติตามที่นายกฯได้กล่าวไว้นั่นเอง

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog