ไม่พบผลการค้นหา
บริษัทให้คำปรึกษาของสหรัฐฯ จัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงาน ผลปรากฏว่ากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงมากที่สุด

บริษัทให้คำปรึกษาของสหรัฐฯ จัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงาน ผลปรากฏว่ากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงมากที่สุด ขณะที่เมืองต่างๆ ในยุโรปตกอันดับลงอย่างเห็นได้ชัด 

 

ค่าเงินเยนที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ทำให้กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงาน จากการจัดอันดับของบริษัทให้คำปรึกษาเมอร์เซอร์ของสหรัฐฯ ที่ทำการศึกษาค่าครองชีพใน 214 เมืองทั่วโลก ระหว่างเดือนมีนาคม 2554 ถึงเดือนมีนาคมปีนี้ ขณะที่เมืองที่เคยติดอันดับในลำดับต้นๆ อย่างเช่น กรุงปารีส กรุงโรม กรุงอัมสเตอร์ดัม และกรุงลอนดอน กลับมีค่าครองชีพลดลง เนื่องจากเงินยูโรกำลังอ่อนค่าลงเรื่อยๆ

 

ในบรรดาค่าใช้จ่ายสำหรับการดำรงชีพของชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงานในประเทศต่างๆ ค่าใช้จ่ายที่คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุด ก็คือค่าที่พัก เป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 25 ตามด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางและสาธารณูปโภค ซึ่งรายได้ที่ลดน้อยลงและอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นในประเทศกลุ่มยูโรโซน ทำให้ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ลดต่ำลง

 

ค่าเช่าห้องหรูขนาด 2 ห้องนอนแบบไม่ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตกต่ำลงถึงร้อยละ 3 จากช่วงก่อนหน้า เหลือเพียง 3,041 ดอลลาร์ หรือประมาณ 96,000 บาทในปัจจุบัน เช่นเดียวกับค่าเช่าห้องในกรุงโรม กรุงเบอร์ลิน และกรุงมาดริด ที่ลดลงเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่มีผลต่อค่าใช้จ่ายของผู้ที่ทำงานในต่างประเทศมากที่สุด น่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งค่าเงินยูโรตกต่ำลงถึงร้อยละ 16 หลังจากที่แข็งตัวมากที่สุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

สถานการณ์ในยุโรปตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกโดยสิ้นเชิง เศรษฐกิจของประเทศแถบนี้กำลังเติบโต จนทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้ที่มาทำงานในประเทศแถบนี้เพิ่มมากขึ้น ค่าที่พักในนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีนเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 73  ค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ขนาด 2 ห้องนอนในฮ่องกงพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 23 เป็น 7,039 ดอลลาร์ หรือประมาณ 220,000 บาท ขณะที่ค่าเช่าในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15

 

อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของค่าเงินก็ยังคงเป็นข่าวร้ายของบริษัทต่างชาติที่ดำเนินการในเอเชีย โดยเฉพาะบริษัทที่มีรายรับเป็นเงินสกุลยูโร โดยบริษัทยุโรปที่ดำเนินการในประเทศออสเตรเลีย อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 15 ส่วนที่ดำเนินการในประเทศญี่ปุ่น อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8 ด้วยเหตุผลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียว

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog