ไม่พบผลการค้นหา
กรมบัญชีกลาง ยืนยันการจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดในวันแรกวันนี้ (9ก.ย.) จะเป็นผู้มีสิทธิรับจริง ไม่ซ้ำซ้อน พร้อมเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นสวัสดิการถัดไป โดยจะนำร่องเมืองพัทยาก่อน ในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า(60)

กรมบัญชีกลาง ยืนยันการจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดในวันแรกวันนี้ (9ก.ย.) จะเป็นผู้มีสิทธิรับจริง ไม่ซ้ำซ้อน พร้อมเตรียมจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นสวัสดิการถัดไป โดยจะนำร่องเมืองพัทยาก่อน ในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า(60)  

วันนี้(9ก.ย.59) เป็นวันแรกที่ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จะจ่ายเงินสวัสดิการจากภาครัฐให้กับประชาชนโดยตรงตามนโยบายของรัฐบาล โดยนำร่องจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ผ่านระบบสวัสดิการสังคมตามโครงการ National e-Payment  เป็นโครงการแรก 

นางชุณหจิต สังข์ใหม่ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง ยืนยันว่า การจ่ายเงินจะไปถึงผู้มีสิทธิตัวจริงและไม่จ่ายซ้ำซ้อน เพราะได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแล้ว ว่าเป็นเด็กแรกเกิดที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด และยังมีชีวิตอยู่จริง

เด็กที่จะได้รับเงินอุดหนุน ต้องอยู่ในครอบครัวที่ยากจน หรือเสี่ยงต่อภาวะความยากจน บิดา-มารดามีสัญชาติไทย  และไม่ได้รับสิทธิ์ประโยชน์อื่น เช่น เงินสงเคราะห์บุตรจากกองทุนประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ รวมถึงมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์

โดยหญิงตั้งครรภ์ ที่มาลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวนกว่า 1.2 แสนคน จะได้รับเงินอุดหนุน ตั้งแต่เดือนแรกที่คลอดบุตร ซึ่งการจ่ายเงินอุดหนุนในวันนี้  ถือว่าเป็นเงินอุดหนุนเดือนแรกสำหรับเด็กที่เกิดในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2558 - วันที่ 30 กันยายน 2559  จำนวนกว่า 5 หมื่น 6 พันคน รวมเป็นเงินกว่า 22 ล้านบาท จะได้รับเงิน 400 บาทต่อเดือน จากนั้น ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นไป  จะได้รับเพิ่มเป็น 600 บาทต่อเดือน  ตามมติคณะรัฐมนตรี จนกว่าจะครบ 3 ปี หรือ 36 เดือน

ส่วนเด็กที่เกิด ในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2559 - วันที่ 30 กันยายน 2560 จะได้รับเงินอุดหนุน เดือนละ 600 บาททันที  ตั้งแต่เดือนที่เกิดไปจนครบ 36 เดือน โดยในเดือนตุลาคมนี้ จำนวนผู้มีสิทธิจะเพิ่มขึ้น เป็น 85,000 คน รวมเป็นเงินอุดหนุนกว่า 34 ล้านบาท  

เงินอุดหนุนดังกล่าว จะโอนเข้าบัญชีธนาคาร ทุกวันที่ 9 ของเดือน ผ่านธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.  โดยการโอนเงินอุดหนุนเข้าบัญชีธนาคารในงวดเดือนตุลาคม จะจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์  แต่หากไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์  จะโอนเข้าบัญชีธนาคารต่อเนื่องไปจนกว่าผู้มีสิทธิ  จะแจ้งเปลี่ยนรูปแบบการรับโอนเงินอุดหนุน  

ส่วนสวัสดิการต่อไป ที่กรมบัญชีกลาง จะจ่ายคือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนกว่า 9 ล้านคน โดยจะเริ่มนำร่องที่เมืองพัทยา ก่อน จำนวน 8 พันคน  เริ่มจ่าย 1 มกราคมปีหน้า(60)  จากนั้นจะประเมินผลก่อนปรับใช้ในส่วนกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ  โดยการจ่ายเบี้ยยังชีพ จะโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งไว้เท่านั้น  ซึ่งไม่เจาะจงธนาคาร และจะจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์สำหรับผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้  แต่หากไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ จะโอนเบี้ยยังชีพเข้าบัญชีธนาคาร จนกว่าผู้มีสิทธิจะแจ้งเปลี่ยนรูปแบบรับโอนเงิน

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลาง ได้ตรวจสอบข้อมูลผู้สูงอายุที่มีสิทธิกับกรมการปกครองแล้วว่า เป็นผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่  ทำให้การจ่ายเบี้ยถึงผู้รับตัวจริง  จากเดิมที่เคยมีการโอนเข้าบัญชีผู้สูงอายุที่เสียชีวิตไปแล้วนับแสนบัญชี ส่วนเบี้ยผู้พิการ จะดำเนินการรูปแบบเดียวกันในระยะต่อไป 

สถานที่รับลงทะเบียน ต้องไปลงทะเบียน ที่สำนักงานเขต สำนักงานเทศบาล หรือที่ทำการ อบต.  หากลงทะเบียนก่อนคลอด ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนของหญิงตั้งครรภ์  หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานราชการ สำเนาเอกสารแสดงการตั้งครรภ์  หรือสำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก แต่ถ้าลงทะเบียนหลังคลอด  ต้องมีสำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิด สำเนาบัญชีธนาคารกรุงไทย ออมสิน หรือ ธ.ก.ส. หรือสำเนาบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ ไว้  

คำจำกัดความของครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน หมายถึง ครัวเรือนที่สมาชิกในครัวเรือน มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า  3,000 บาทต่อคนต่อเดือน หรือต่ำกว่า 36,000 บาทต่อคนต่อปี

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog