คุกกวนตานาโมเป็นบาดแผลด้านสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โอบามาก็พยายามอย่างหนักที่จะปิดคุกลับแห่งนี้ แต่ในเมื่อเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนก่อนเขาหมดวาระ หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าโอบามาจะปิดตำนานอันอื้อฉาวนี้ลงได้จริงหรือไม่
เบื้องหลังรั้วสูงทึบและลวดหนามแหลมคมนี้ คือสถานที่ที่ปิดลับแต่กลับตกเป็นข่าวอื้อฉาวที่สุดแห่งหนึ่งในโลก คุกลับกวนตานาโม ที่นี่ไม่ได้ปิดลับอย่างในชื่อ แต่เป็นที่รู้กันดีว่านี่คือสถานที่ที่รัฐบาลสหรัฐฯใช้กักขังนักโทษคดีก่อการร้ายตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์ช ดับเบิลยู บุช ทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายกับกลุ่มอัลกออิดะห์
คุกกวนตานาโม หรือกิตโม (GTMO) ตั้งอยู่ในฐานทัพเรือของสหรัฐฯบนอ่าวกวนตานาโมของคิวบา ในปี 2002 ที่คุกแห่งนี้ถูกตั้งขึ้น รัฐบาลสหรัฐฯอ้างว่ากิตโมใช้สำหรับสอบสวนและคุมขังบุคคลอันตรายระดับสูงสุดอย่างอาชญากรสงครามและผู้ก่อการร้าย แต่ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา กิตโมกลับถูกใช้เป็นสถานที่ควบคุมตัวนักโทษโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ บางคนถูกคุมขังนานกว่า 10 ปี และหลายคนถูกทรมานในระหว่างการกักขัง และถูกบังคับให้อาหารทางทวารหนักในกรณีอดอาหารประท้วง แอมเนสตี้ อินเทอร์เนชั่นแนล เคยเปิดเผยรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในคุกลับกวนตานาโม และเปรียบเทียบที่นี่ว่าเป็น "กูลัก" หรือค่ายกักกันแรงงานในสมัยโซเวียต และในปี 2006 สหประชาชาติก็เรียกร้องให้สหรัฐฯปิดกิตโม แต่ไม่สำเร็จ
นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากนายบุช พยายามเข้ามาสะสางปัญหากวนตานาโม ซึ่งกลายเป็นบาดแผลด้านสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในฐานะประเทศที่อ้างตัวว่าเป็นผู้พิทักษ์ประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของโลก โอบามาประกาศว่าเขาจะต้องปิดกิตโมให้ได้ก่อนลงจากตำแหน่ง และพยายามออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อลดจำนวนนักโทษกวนตานาโมลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้วิธีโอนย้ายนักโทษไปยังประเทศอื่น แม้จะถูกขัดขวางโดยสภาคองเกรส ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ และสมาชิกส่วนใหญ่มองว่ากิตโมยังเป็น "ความชั่วร้ายที่จำเป็น"ในการปราบปรามการก่อการร้ายและรักษาความมั่นคงของประเทศ
ในช่วงที่สถานการณ์สงครามต่อต้านการก่อการร้ายตึงเครียด เพนตากอนยอมรับว่ากวนตานาโมมีนักโทษเกือบ 700 คน ปัจจุบันกิตโมยังคงคุมขังนักโทษอยู่ 61 คน ในจำนวนนี้มีอีก 19 คนที่อยู่ระหว่างรอการปล่อยตัว ตัวเลขที่ลดลงอย่างน่าพอใจนี้ทำให้หลายฝ่ายคาดหวังว่าในช่วงเวลาครึ่งปีสุดท้ายของรัฐบาลโอบามา เขาจะสามารถบรรลุนโยบายสำคัญอย่างการปิดคุกลับกวนตานาโมได้สำเร็จ
แต่อุปสรรคสำคัญที่สุดในการปิดกิตโม ยังเป็นสภาคองเกรสที่เต็มไปด้วยฝ่ายอนุรักษ์นิยมจากรีพับลิกัน คองเกรสเชื่อว่านักโทษอีกกว่าครึ่งร้อยที่ยังอยู่ในเรือนจำกิตโม จำนวนหนึ่งเป็นนักโทษสำคัญที่ไม่สามารถปล่อยตัวเป็นอิสระได้ และจะส่งไปประเทศอื่น หรือกลับเข้าสหรัฐฯก็ไม่ได้ เพราะเป็นบุคคลอันตรายเกินไป ที่สำคัญกว่านั้น ในยุคที่การก่อการร้ายกลับมาเป็นภัยคุกคามหลักของโลกอีกครั้งอย่างในวันนี้ นักการเมืองสายเหยี่ยวในสหรัฐฯยิ่งเชื่อมั่นว่ากวนตานาโมยังเป็นเครื่องมือที่สหรัฐฯจำเป็นต้องใช้ต่อไป แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยชื่อเสียงอันด่างพร้อยก็ตาม