สองปีผ่านไปหลังการปราบปรามประชาชนอย่างโหดร้ายรุนแรงที่ราชประสงค์ แม้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล แต่การทวงถามความยุติธรรมยังไม่คืบหน้า ทั้งประชาชนที่เสียชีวิต และถูกจับกุมคุมขัง
มวลชนเสื้อแดงถูกจับกุมในเหตุการณ์ครั้งนั้น 1,762 คน ถึงขณะนี้ยังติดคุกอยู่ 50 คน หากนับรวมคดี 112 ก็เป็น 62 คน พวกเขาส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนยากจน ไม่ได้รับความยุติธรรมตั้งแต่ต้น ถูกตั้งข้อหาร้ายแรงเกินจริง และถูกบีบคั้นให้รับสารภาพตั้งแต่ถูกจับกุมโดยไม่ได้ปรึกษาทนาย ไม่ได้พบญาติ โดยเฉพาะข้อหาฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ที่ต้องโทษจำคุก 6 เดือนถึง 1 ปี
นอกจากในชั้นสอบสวน ชั้นอัยการ ยังพบว่าบางคดี ผู้พิพากษาก็มีทัศนคติเป็นลบต่อเสื้อแดง และเมื่อถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ พวกเขาก็ยังถูกบีบคั้นกดดันมากกว่าผู้ต้องขังคดีอื่นๆ เพราะถูกมองเป็นแดงเผาบ้านเผาเมือง
ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลจะต้องหาทางเยียวยาคืนความยุติธรรมให้มวลชนเหล่านี้ ซึ่งอาจจะเป็นการนิรโทษกรรมผู้ต้องขังที่ถูกตั้งข้อหาสืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง แต่ไม่ใช่ให้ผู้รับผิดชอบการปราบปรามประชาชนพ้นผิด
พบกับเสาวลักษณ์ โพธิ์งาม จากศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุม เม.ย.-พ.ค.53
รวมถึง ธิติพงษ์ ศรีแสน ทนายความ, เจียม ทองมาก จำเลยคดีปล้นทรัพย์ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ ซึ่งท้ายที่สุดศาลยกฟ้อง ต้องโทษเพียงคดีฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน 6 เดือนแต่ติดคุก 1 ปี 6 เดือน 12 วัน, สมศรี สงวนสิทธิ์ ภรรยาของคำหล้า ชมชื่น ผู้ถูกกล่าวหาว่าปล้นปืนทหาร จากเหตุการณ์ที่มวลชนร่วมกันปลดอาวุธทหารที่ดินแดง และมารดาของโปรแกรมเมอร์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าทำเว็บหมิ่น ซึ่งถูกจับกุมในรัฐบาลนี้โดยไม่มีโอกาสประกันตัวสู้คดี
ติดตามรายละเอียดทั้งหมดได้ใน รายการ Intelligence วันเสาร์ที่ 19 พ.ค. 55
Produced by VoiceTV
