รองศาสตราจารย์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ริเริ่มโครงการรณรงค์ "ก้าวข้ามความกลัว: ปลดปล่อยอากง" ยืนยันว่า หลังจากนี้จะรณรงค์ต่อสู้เพื่ออากงต่อไป
รองศาสตราจารย์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ริเริ่มโครงการรณรงค์ "ก้าวข้ามความกลัว: ปลดปล่อยอากง" ยืนยันว่า หลังจากนี้จะรณรงค์ต่อสู้เพื่ออากงต่อไป เพราะไม่ต้องการให้เรื่องราวของอากงถูกลืมไปจากสังคมไทย พร้อมย้ำว่า การแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นสิ่งจำเป็น เพราะปัจจุบัน กฎหมายดังกล่าวเปรียบเหมือนกับจุดด่างของสังคมไทย
รองศาสตราจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับวอยซ์ทีวี ถึงกรณีการเสียชีวิตของอากง หรือนายอำพล ตั้งนพกุล วัย 61 ปี ผู้ต้องขังคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และถูกศาลอาญา พิพากษาจำคุก 20 ปี
กล่าวว่า แม้ตอนนี้ สาเหตุการเสียชีวิตจะยังไม่แน่ชัด เพราะต้องรอผลการชันสูตรศพก่อน แต่อาจารย์ปวินเชื่อว่า อากงมีสุขภาพที่ย่ำแย่อยู่แล้ว เพราะจากการพบกันครั้งหลังสุด มีอาการไม่สู้ดีนัก เมื่อถูกจองจำ และเผชิญกับแรงกดดันต่างๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สุขภาพทรุดหนักลง
แม้การเสียชีวิตของอากง จะช่วยทำให้เกิดกระแสตื่นตัวเรื่องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง แต่อาจารย์ก็ไม่ต้องการให้กระแสดังกล่าวดับวูบเพียงช่วงเวลาเดียว
ในทางตรงกันข้าม ต้องให้เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยเป็นวงกว้าง ทั้งในสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เปรียบเหมือนกับจุดด่างของสังคมไทยให้มากยิ่งขึ้น
อาจารย์ปวินยืนยันว่า แม้ว่าอากงจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่การรณรงค์ต่อสู้เพื่ออากงจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปแน่นอน เพียงแต่ว่าแนวทางในก���รรณรงค์นั้นยังไม่มีความชัดเจน แต่หลังจากนี้ คงจะมีการหารือกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ รศ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ คือผู้เริ่มต้นของโครงการ "ก้าวข้ามความกลัว: ปลดปล่อยอากง" หรือ "Thailand's Fearlessness: Free Akong" ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งขึ้นมา เพื่อรณรงค์เรียกร้องความยุติธรรมอย่างสันติวิธี โดยใช้สัญลักษณ์การชูฝ่ามือที่มีคำว่า "อากง" เป็นหนึ่งในรูปแบบของการรณรงค์ดังกล่าว ซึ่งหลังจากเปิดตัวโครงการได้ไม่นานนัก ก็มีผู้เข้าร่วมด้วยการส่งรูปถ่ายฝ่ามืออากงเข้ามาเป็นจำนวนมาก และรูปถ่ายกว่า 500 รูปก็ได้รับการตีพิมพ์ลงหนังสือ "ก้าวข้ามความกลัว" ซึ่งรายได้จากการขายหนังสือทั้งหมด หลังจากหักค่าจัดพิมพ์แล้ว ก็จะส่งมอบให้แก่ครอบครัวของอากงต่อไป
Produced by VoiceTV