ไม่พบผลการค้นหา
เอ่ยถึงโบราณสถานในเมืองลพบุรี ผู้คนมักนึกถึงพระปรางค์สามยอด ศาสนสถานในศิลปะขอม ไม่ไกลจากปรางค์สามองค์ เป็นที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปรางค์องค์แรกๆในศิลปะไทยปรากฏขึ้นที่นี่

เอ่ยถึงโบราณสถานในเมืองลพบุรี ผู้คนมักนึกถึงพระปรางค์สามยอด ศาสนสถานในศิลปะขอม ไม่ไกลจากปรางค์สามองค์ เป็นที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปรางค์องค์แรกๆในศิลปะไทยปรากฏขึ้นที่นี่

 

ปรางค์ประธาน วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี สร้างขึ้นก่อนราชธานีกรุงศรีอยุธยาราว 100 ปี นับเป็นปรางค์แบบไทยที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เป็นแบบอย่างแก่การสร้างเจดีย์ทรงปรางค์นับแต่สมัยอยุธยาเป็นต้นมา

 

ปรางค์ประธานสร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนา ตั้งอยู่ในพระอารามที่เป็นศูนย์กลางของนคร ปรากฏขึ้นด้วยคตินิยมเดียวกับการประดิษฐานพระมหาธาตุไว้ใจกลางเมืองสำคัญของแว่นแคว้นโบราณทุกยุคสมัย

 

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี สร้างขึ้นเมื่อราวต้นพุทธศตวรรษที่ 19 หรือประมาณพ.ศ.1800 ก่อนพระเจ้าอู่ทองสถาปนากรุงศรีอยุธยาในพ.ศ. 1893

 

สันนิษฐานว่า วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อลพบุรีพ้นจากการครอบงำของวัฒนธรรมขอมแล้ว มีบันทึกในจดหมายเหตุจีนว่า ระหว่างพ.ศ. 1832-1842  เมืองลพบุรีส่งทูตไปเจริญไมตรีกับจีนไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง นั่นย่อมแสดงถึงความมีอิสระของนครแห่งนี้ (สันติ เล็กสุขุม 2555, 304)

 

ภายในวัด นอกจากปฐมปรางค์ในศิลปะไทยแล้ว ยังมีเจดีย์ที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์อีกหลายองค์ (สันติ เล็กสุขุม 2553,193-231)

 

ปรางค์ประธาน

 

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี มีเจดีย์ประธานเป็นทรงปรางค์ ยังมีเค้าของปราสาทขอม ทั้งรูปแบบสัดส่วนและลวดลายปูนปั้นประดับ

 

ลวดลายที่ปรากฏในปัจจุบัน มีทั้งงานคราวสร้างและงานคราวซ่อม วัดสำคัญแห่งนี้ผ่านการปฏิสังขรณ์ทั้งในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลาย

 

ปรางค์มีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ ส่วนล่างเป็นชุดฐาน ส่วนกลางเป็นเรือนธาตุ และส่วนยอดเป็นชั้นซ้อนลดหลั่น

 

ชุดฐานขององค์ปรางค์ก่อบนฐานซ้อนลดหลั่น 3 ฐาน เป็นชุดฐานที่ไม่สูงนัก เช่นเดียวกับปรางค์ขอมทั่วไป ก่อนที่ชุดฐานของปรางค์ไทยจะยืดสูงในสมัยหลัง

 

เรือนธาตุมีลวดลายประดับที่ซุ้มบรรพแถลง ที่ส่วนล่าง และที่ส่วนบน ของผนังเรือนธาตุ  

 

ส่วนยอดประกอบด้วยรูปจำลองของเรือนธาตุ ที่เรียกว่า บรรพแถลง ซ้อนลดหลั่นกัน อันแสดงความหมายของปราสาท

 

ปรางค์แห่งนี้มีตรีมุขยื่นออกไปทางตะวันออก ปีกทั้งสองข้างของปรางค์ยังคงเหลือส่วนฐานอาคารซึ่งสันนิษฐานว่าเคยเป็นที่ตั้งของปรางค์ปีกในแนวเหนือ-ใต้

 

ที่ซุ้มบรรพแถลงของเรือนธาตุทางทิศใต้ มีปูนปั้นแสดงภาพพระพุทธองค์และสาวก ประทับนั่งในเรือนแก้ว ที่ผนังส่วนบนของเรือนธาตุประดับด้วยลายเฟื่องอุบะ คือ รูปมาลัยดอกไม้ทรงสามเหลี่ยมปลายชี้ลง ดูคล้ายแขวนเรียงเป็นราว

 

เหนือจากลายฟื่องอุบะบนยอดผนัง เป็นลวดลายประดับแบบต่างๆบนชุดลวดบัวรัดเกล้า

 

เสากรอบซุ้มประตูยังหลงเหลือลวดลายปูนปั้น ส่วนล่างของผนังเรือนธาตุประดับลายกรวยเชิง

 

ประตูซุ้มซ้อนด้านทิศใต้ของตรีมุข ยังเหลือลวดลายประดับรุ่นสร้างปรางค์อยู่ตรงทับหลังกรอบประตู ลายกรวยเชิง ลายเฟื่องอุบะ และที่ชุดลวดบัวรองรับเสากรอบประตู

 

บนแผ่นสี่เหลี่ยมในตำแหน่งของทับหลังปราสาทแบบขอม มีรูปเล่าเรื่องกฤษณาวตาร แต่ถูกทับซ้อนด้วยรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ

 

ด้านทิศเหนือของตรีมุข มีลวดลายประดับที่กรอบซุ้มของหน้าบรรพชั้นซ้อน

 

ปรางค์หมายเลข 16 ค.

 

ภายในวัดแห่งนี้ มีเจดีย์รายจำนวนมาก หลากหลายรูปแบบ แต่ละองค์มีชื่อเรียกพร้อมหมายเลขกำกับ

 

นักประวัติศาสตร์ศิลปะเชื่อว่า ปรางค์หมายเลข 16 ค.สร้างขึ้นในคราวเดียวกับปรางค์ประธาน

 

ที่ลวดบัวรัดเกล้าตรงส่วนบน และที่ลวดบัวเชิงตรงส่วนล่างของเรือนธาตุ รวมทั้งเสาซุ้มประตู มีลายปูนปั้นประดับ

 

เจดีย์หมายเลข 1 ข.

 

ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปรางค์ประธาน ใกล้กับกำแพงวัด มีเจดีย์ยอดทรงกลีบมะเฟือง เรียกชื่อว่า เจดีย์หมายเลข 1 ข.  โดดเด่นด้วยปูนปั้นรูปเทวดายืนประนมกร เรียงรายอยู่ตอนล่างของส่วนบน

 

ส่วนเศียรของรูปเทวดาถูกคนร้ายลักลอบกะเทาะเอาไป กรมศิลปากรปั้นพระพักตร์ขึ้นใหม่แทนของเดิม โดยอาศัยแบบจากภาพถ่ายเก่า

 

เจดีย์หมายเลข 6 ข.

 

เจดีย์รายอีกองค์หนึ่ง เรียกชื่อว่า เจดีย์หมายเลข 6 ข. ตั้งอยู่ใกล้กับกำแพงแก้วทางด้านเหนือ มีส่วนยอดเป็นทรงกลีบมะเฟืองเช่นกัน ต่างกันตรงส่วนฐานที่มีจระนำประดับ ทำให้องค์นี้มีสัดส่วนสูงกว่า

 

ภายในจระนำตรงส่วนเรือนธาตุ ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น ด้านทิศใต้เป็นพระยืน ปางแสดงธรรม (พระกรขวาตั้งแต่ข้อศอกชำรุดหักหาย)

 

ด้านทิศเหนือเป็นปางลีลา บ่งบอกแรงบันดาลใจจากศิลปะสุโขทัย กรมศิลปากรปั้นพระพักตร์ขึ้นใหม่แทนของเดิมที่ถูกโจรกะเทาะเอาไป (ไม่ปรากฏในภาพ)

 

เจดีย์ทรงระฆังหมายเลข 5 ข.

 

เจดีย์รายองค์นี้อยู่ทางด้านเหนือของวัด ก่อบนชุดฐานสูง ผนังของฐานส่วนล่างประดับปูนปั้นรูปพระสงฆ์สาวกพนมมือ

 

เศียรของรูปพระสงฆ์ถูกคนร้ายกะเทาะเอาไปทั้งหมด

 

เจดีย์ทรงระฆังในผังแปดเหลี่ยม หมายเลข 14 ข.

 

เจดีย์ราย หมายเลข 14 ข. เป็นทรงระฆังในผังแปดเหลี่ยม

 

ส่วนกลางของเจดีย์เป็นส่วนรองรับองค์ระฆัง ประกอบด้วยฐานบัวคว่ำ 3 ชั้น เหมือนลวดบัวถลาในศิลปะสุโขทัย ถัดลงมาเป็นลายดอกไม้ ลายวงกลมแบบจีนสลับด้วยลายดอกไม้สี่กลีบ

 

ใต้องค์ระฆังมีจระนำซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปเรียงต่อกันโดยรอบ  

 

ถ้าสนใจชมปรางค์ไทยองค์แรกๆที่พัฒนาจากปราสาทแบบขอม พร้อมเจดีย์รูปทรงแปลกตา เชิญทอดทัศนา ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี.

 

 

เอกสารอ้างอิง

สันติ เล็กสุขุม.  (2553).  งานประดับก่อนและหลังสถาปนาราชธานีกรุงศรีอยุธยา : วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี.  ใน พัฒนาการของลายไทย : กระหนกกับเอกลักษณ์ไทย.  กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ.  

 

 

สันติ เล็กสุขุม.  (2555).  สถาปัตยศิลป์ไทยโบราณ : ปรางค์พระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี. ใน คุยกับงานช่างไทยโบราณ.  กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.

 

ติดตาม ไทยทัศนา ย้อนหลัง

 

ไทยทัศนา : (1) วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพฯ

ไทยทัศนา : (2) วัดสุวรรณาราม ฝั่งธนบุรี

ไทยทัศนา : (3) วัดราชโอรส ฝั่งธนบุรี

ไทยทัศนา : (4) วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพฯ

ไทยทัศนา : (5) วัดสุวรรณดาราราม อยุธยา

ไทยทัศนา : (6) วัดเสนาสนาราม อยุธยา

ไทยทัศนา : (7) วัดจันทบุรี สระบุรี

ไทยทัศนา : (8) วัดสมุหประดิษฐาราม สระบุรี

ไทยทัศนา : (9) วัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี

ไทยทัศนา : (10) วัดบางขุนเทียนใน ฝั่งธนบุรี

ไทยทัศนา : (11) วัดซางตาครู้ส ฝั่งธนบุรี

ไทยทัศนา : (12) วัดบางขุนเทียนนอก ฝั่งธนบุรี

ไทยทัศนา : (13) วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม

ไทยทัศนา : (14) วัดนิเวศธรรมประวัติ อยุธยา

ไทยทัศนา : (15) สัตตมหาสถาน กรุงเทพฯ เพชรบุรี

ไทยทัศนา : (16) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ

ไทยทัศนา : (17) วัดตองปุ ลพบุรี

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog