เควิน เดอ บรอยน์ และทีม "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน โชว์ผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในฟุตบอลยูโร 2016 จากการเก็บสถิติของยูฟ่า ในรอบที่ผ่านมา ก่อนเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในคืนวันพรุ่งนี้ (30 มิ.ย.)
ฟุตบอลยูโร 2016 ศึกชิงเจ้าลูกหนังแห่งชาติทวีปยุโรป สิ้นสุดรอบ 16 ทีมสุดท้าย และกำลังเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งเหลืออีกเพียง 8 ทีม ที่จะห้ำหั่นกันแย่งแชมป์แห่งศักดิ์ศรี ตลอดทัวร์นาเมนต์ล่าสุด สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้รวบรวมสถิติที่น่าสนใจทั้งในมุมส่วนตัวของนักเตะ และผลงานโดยรวมแบบเป็นทีมไว้มากมาย โดยสถิติที่น่าสนใจ มีดังนี้
เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม จากสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าตำแหน่งนักเตะฟอร์มดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์หลังจบรอบน็อคเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยสถิติโดยรวมที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการเปิดบอลทั้งหมด 10 ครั้ง สร้างโอกาสให้เพื่อนพังประตู 4 ครั้ง และยิงเข้ากรอบ 5 ครั้ง แม้จะถูกปฏิเสธโดยเสาและคานทำให้ไม่เป็นประตูเลยก็ตาม
ส่วนผู้เล่นฟอร์มดีอันดับ 2 เป็นของ ดิมิทรี ปาเยต จากชาติเจ้าภาพ ฝรั่งเศส และอันดับ 3 เป็นเอแด็ง อาซาร์ ของเบลเยียม เพื่อนร่วมทีมชาติของเควิน เดอ บรอยน์
อันดับดาวซัลโวล่าสุด ยิงได้มากที่สุด 3 ประตู เท่ากัน 3 คน คือ แกเร็ธ เบล, อองตวน กรีซมันน์, และอัลบาโร่ โมราต้า โดยหลายหลังหมดสิทธิ์ลุ้นประตูเพิ่ม เนื่องจากทีมชาติสเปนของเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแล้ว
จากผลงานส่วนบุคคลมาดูผลงานแบบเป็นทีมกันบ้าง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ถือเป็นทีมที่มีผลงานดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมา จากการคว้าอันดับ 1 ทั้งเปอร์เซ็นต์การผ่านบอล และการครองบอล
โดยการผ่านบอลสำเร็จ เยอรมัน ทำได้ 91% เท่ากับ สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่เปอร์เซ็นต์การครองบอล เยอรมัน นำโด่งที่ 64% ดีกว่าสเปน ในอันดับสองห่าง 3% และการทำประตูเฉลี่ยต่อเกมอยู่ที่จำนวน 2 ลูก
สำหรับโปรแกรมยูโร 2016 รอบต่อไป จะเริ่มคิกออฟคู่แรกในคืนพรุ่งนี้ (30 มิ.ย.) เวลา 02.00 น. โปแลนด์ พบโปรตุเกส ที่สต๊าด เวโลโดรม ในเมืองมาร์กเซย์
ทีมใดชนะจะไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เวลส์ กับเบลเยียม ที่เตะกันในคืนถัดไป (1 ก.ค.) เวลา 02.00 น. ที่สต๊าด ปิแอร์ โมรัว ของเมืองลีลล์
ส่วนอีกฝั่งของตาราง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน จะพบกับอิตาลี แชมป์โลก 4 สมัยด้วยกันทั้งคู่ แมตช์ไฮไลต์รอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่นี้ จะเตะกันที่สต๊าด เดอ บอร์กโดซ์ ในเมืองบอร์กโดซ์ คืนวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00 น.
โดยทีมใดได้ผ่านเข้ารอบ จะไปพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส เจ้าภาพ กับไอซ์แลนด์ ทีมจอมพลิกล็อก ซึ่งจะเตะเป็นคู่ปิดท้ายรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ในเมืองแซงต์ เดนีส์ คืนวันอาทิตย์นี้ (3 ก.ค.) เวลา 02.00 น.