ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ใกล้กับฐานปฏิบัติการณ์ หมวดเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก จ.นราธิวาส พบเป็นรถที่เคยร่วมใช้ก่อเหตุระเบิดห้างสรรสินค้าเซนทรัลเกาะสมุย เมื่อช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว และคาดว่าคนร้ายหลบหนีเข้ามาเลเซียไปแล้ว
ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิไททัน สีบรอนส์ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ขับมาจอดทิ้งไว้ บนถนนข้างโรงเรียนบ้านสุไหงโกลก ใกล้กับฐานปฏิบัติการณ์ หมวดเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 33 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก
จากนั้นเดินไปซ้อนท้ายรถจักรยานต์ที่เพื่อนตามมารับ และในช่วงเดียวกัน จะเห็นว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งขับขี่รถจักรยานต์ 2 คันตรวจตราความปลอดภัย พบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัยจึงเรียกตรวจ แต่คนร้ายไหวตัวทันขับหลบหนีออกไป ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นในเวลาต่อมา
พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนราธิวาส เปิดเผยว่า ระเบิดที่ก่อเหตุ เป็นชนิดแสวงเครื่องหนัก 80 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร และจากการตรวจสอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พบว่า เป็นรถที่คนร้ายได้ขโมยจากนางนุรียัน วาเตะ ที่จอดทิ้งไว้ที่บริเวณชายหาดนราทัศน์ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา
และจากการสืบสวนสอบสวน คนร้ายเคยใช้รถกระบะคันดังกล่าว ร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดชั้นจอดรถ ห้างสรรพสินค้าเซนทรัลสาขาเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เมษายน ปีที่แล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ ได้หลบหนีเข้าไปในประเทศมาเลเซียแล้ว
ล่าสุด ประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จากเหตุคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้น แจ้งขอรับความช่วยเหลือ จำนวน 28 ราย โดยแยกเป็น ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 รายอาการปลอดภัย