ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีคนเกาหลีใต้จำนวนไม่มากอาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่กระแสนิยมวัฒนธรรมเกาหลีใต้ของคนไทยในหลายปีที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุมชนแห่งนี้เติบโตมากขึ้น
ชั้นการเรียนการสอนภาษาไทยในโรงเรียนแห่งนี้ จัดให้คนเกาหลีใต้ที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดยเฉพาะที่ตั้งใจอยากเรียนรู้ภาษา และวัฒนธรรมของไทย การเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเหล่านักเรียนชาวเกาหลี สามารถโต้ตอบกับคุณครูคนไทยได้อย่างฉะฉาน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงชั้นเรียนสำหรับระดับแรกเริ่มเท่านั้น การเรียนการสอนภาษาไทย มีนักเรียนประมาณ 20 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ที่มาทำงานในประเทศไทย
หลายปีที่ผ่านมา กระแสความนิยมวัฒนธรรมเกาหลีใต้ในไทย มีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมของสองประเทศ และดึงดูดให้ชาวเกาหลีใต้เข้ามาอาศัยในไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขารู้สึกว่าได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากคนไทย
โดยปัจจุบันมีชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ในไทย ประมาณ 25,000 คน ถ้าเทียบกับชาวต่างชาติจากประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ยังถือว่ามีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม การที่มีจำนวนน้อย ทำให้สังคมของพวกเขารวมตัวเป็นปึกแผ่นได้ง่าย เช่น มีการจัดตั้งสมาคมเกาหลีในประเทศไทยขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความปรองดอง รวมถึงให้ความช่วยเหลือคนเกาหลีใต้ด้วยกัน นอกเหนือไปจากการขอความช่วยเหลือผ่านสถานทูต
คนเกาหลีใต้ในไทยบางส่วน ย้ายมาอยู่ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจากบริษัทในเกาหลีใต้ รวมถึงเจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านขายของนำเข้าจากเกาหลีใต้ หรือ ธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งมีการย้ายที่อยู่เข้ามาในไทยพร้อมครอบครัว ทำให้ลูกหลานของพวกเขาเรียนในสถาบันการศึกษาของไทยเช่นเดียวกัน
โคเรียนทาวน์ บนถนนสุขุมวิท ถึงแม้จะเป็นเพียงศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ที่มีคนเกาหลีใต้มาเปิดร้านรวงเพื่อธุรกิจต่างๆ จำนวนมาก จนได้รับการขนานนามว่าเป็น"เมืองเกาหลี"ในกรุงเทพ แต่ก็แสดงถึงความลงหลักปักฐานในไทยของชาวเกาหลีใต้ได้ดี เพราะการทำธุรกิจในบริเวณนี้ ทั้งร้านอาหาร หรือร้านขายของที่นำเข้ามาจากเกาหลีใต้ ไม่ได้ขายให้คนไทย แต่ป้ายชื่อ หรือกรรมวิธีปรุงอาหาร เป็นแบบเกาหลีแท้ๆ เพื่อบริการชาวเกาหลีใต้ด้วยกันเอง เป็นอีกหลักฐานยืนยันความเป็นโลกาภิวัฒน์ ที่ชุมชนโคเรียนทาวน์กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆภายใต้สังคมไทย