ชาวนาพิจิตรถือใช้วิธีหว่านข้าวด้วยมือตามแบบโบราณเป็นการเริ่มต้นฤดูเพาะปลูก ขณะที่ยังมีชาวนาอีกว่าครึ่ง ยังไม่เริ่มทำนา เนื่องจากเผชิญสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงในขณะนี้
ชาวนาในพื้นที่ตำบลไผ่ท่าโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ลงมือปลูกข้าวในแปลงนา โดยวิธีการหว่าน ข้าวปลูกด้วยมือ ซึ่งเป็นวิธีแบบโบราณ โดยยึดวันดีวันพืชมงคลเป็นการเริ่มต้นการเพาะปลูกตามความเชื่อ พืชผลทางการเกษตรจะเจริญงอกงาม ปราศจากศัตรูพืช และภัยธรรมชาติรบกวน ผลผลิตที่ได้จะดี
วิธีการหว่านใช้การหว่านด้วยมือซึ่งหาชมได้ยากในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เนื่องจากชาวนาส่วนใหญ่ใช้วิธีการหว่าน หรือ ปักดำด้วยเครื่องจักร โดยเกษตรกรให้เหตุผลการหว่านด้วยมือมีผลดีข้าวที่หว่านจะเก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าการหว่านด้วยเครื่อง 8-10 วัน เนื่องจากการหว่านด้วยมือเมล็ดข้าวจะลอย แต่การหว่านด้วยเครื่องเมล็ดข้าวจะจมในเลนจึงงอกช้ากว่า
ขณะที่ชาวนาอีกกว่าครึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ยังคงปล่อยทิ้งพื้นที่นา ยังไม่สามารถที่จะเริ่มเพาะปลูกแม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกที่ชาวนาในพื้นที่จังหวัดพิจิตรจะเริ่มต้นทำนาในช่วงที่เข้าสู่เดือนหกไทย เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง ไม่มีน้ำต้นทุนในการทำนาเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง แหล่งน้ำธรรมชาติแห้งจนหมด ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน เกษตรกรจำต้องเลื่อนการทำนาออกไปจนกว่าฝนจะตกลงมาในพื้นที่
ผลการเสี่ยงทายพระโคกินอาหาร สนามหลวง เนื่องในวันพืชมงคล ประจำปีนี้พระโคเพิ่มและพระโคพูล ส่วนพระโคสำรอง ได้แก่ พระโคพอและพระโคเพียง กินข้าว ข้าวโพด งา น้ำ หญ้า และเหล้า โหรจึงพยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะบริบูรณ์ดี น้ำท่าบริบูรณ์สมควร การคมนาคมสะดวกยิ่งขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง
ส่วนพระยาแรกนา เสี่ยงหยิบผ้าได้ 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำสำหรับปีนี้จะมีพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ ผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี