ไม่พบผลการค้นหา
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. เตือนการเก็บอาหารค้างมื้อแช่ตู้เย็น ก่อนรับประทานต้องอุ่นให้ร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ ชี้การแช่ตู้เย็นไม่ได้ฆ่าเชื้อโรค พร้อมแนะท้องเสียห้ามกินยาหยุดถ่าย เพราะอาจทำให้เชื้อโรคค้างในลำไส้ เสี่ยงลำไส้อักเสบได้

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. เตือนการเก็บอาหารค้างมื้อแช่ตู้เย็น ก่อนรับประทานต้องอุ่นให้ร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ ชี้การแช่ตู้เย็นไม่ได้ฆ่าเชื้อโรค พร้อมแนะท้องเสียห้ามกินยาหยุดถ่าย เพราะอาจทำให้เชื้อโรคค้างในลำไส้ เสี่ยงลำไส้อักเสบได้
 
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ช่วงที่สภาพอากาศร้อนอบอ้าวขณะนี้บางแห่งสูง 40 - 42 องศาเซลเซียส ประชาชนจะมีความเสี่ยงป่วยจากโรคอาหารเป็นพิษมากขึ้น เนื่องจากช่วงอากาศร้อนอาหารจะบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมจนถึงวันที่ 18 เมษายน 2559 มีรายงานผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษทุกจังหวัด รวม 13,689 คน ส่วนใหญ่พบมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และฤดูร้อนจะมีไปถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2559

ขณะนี้พบว่าประชาชนนิยมเก็บอาหารค้างมื้อหรือซื้ออาหารปรุงสำเร็จมาแล้ว เก็บแช่ไว้ในตู้เย็น ซึ่งขณะนี้มีใช้กันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ก่อนนำมารับประทานขอให้อุ่นด้วยความร้อนให้เดือดก่อนทุกครั้ง เพื่อฆ่าเชื้อโรคให้หมดไป เนื่องจากความเย็นในตู้เย็นไม่ได้ฆ่าเชื้อโรค เพียงแต่ช่วยให้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเท่านั้น ในกรณีที่ประชาชนเกิดอาการท้องเสียห้ามรับประทานยาหยุดถ่าย เนื่องจากการถ่ายเป็นกลไกของร่างกายในการขับเชื้อโรคและของเสียออกจากร่างกายหากรับประทานยาห้ามถ่ายเข้าไปจะทำให้ลำไส้ทำงานน้อยลง จากเดิมที่เคยบิดตัวเพื่อไล่ของเสียออกไป ลำไส้ก็จะอยู่นิ่งๆ ทำให้เชื้อโรคคั่งค้างและเจริญเติบโตอยู่ในลำไส้ อาจเข้าสู่กระแสเลือดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ด้านนายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า โรคอาหารเป็นพิษ พบได้ทุกกลุ่มอายุ เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป เช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือปนเปื้อนสารพิษสารเคมี เกิดได้ทุกขั้นตอนของอาหาร เช่นปนเปื้อนจากวัตถุดิบ จากการปรุง หรือการเก็บอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ผู้ติดเชื้อจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดบิด ถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ อาจมีไข้ ปวดศีรษะหากครอบครัวใดมีผู้ที่มีอาการดังกล่าว สามารถให้การดูแลเบื้องต้นโดยไม่ต้องงดอาหาร ขอให้กินอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น โจ๊ก หรือข้าวต้ม และให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่หรือที่เรียกว่าผงโออาร์เอสแทนน้ำ เพื่อป้องกันการขาดน้ำและเกลือแร่ อาการจะค่อยๆดีขึ้น หากไม่ดีขึ้นคือถ่ายเป็นน้ำมากขึ้น อาเจียนบ่อยขึ้น กระหายน้ำมาก ตาลึกโหล ขอให้รีบปรึกษา อสม.ที่อยู่ใกล้ หรือไปพบเจ้าหน้าที่ที่สถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อการดูแลรักษาที่ถูกต้อง

การป้องกันโรคอาหารเป็นพิษขอให้ประชาชนรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่ปรุงสุกๆดิบๆ ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร อาหารที่ค้างมื้อต้องอุ่นให้เดือดก่อนรับประทานทุกครั้ง ดื่มน้ำต้มสุก หรือน้ำบรรจุขวดที่มีตราเครื่องหมาย อย.(สบส.) 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog