'สวนอภิรัญญา' เป็นสวนทุเรียนนนท์ตัวอย่าง ที่ปลูกพืชแบบผสมผสาน และขุดสระน้ำ เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ปีนี้(59) จึงรอพ้นจากปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ ต่างจากสวนทุเรียนอื่นๆ ที่ต้องจ่ายค่าน้ำประปานับหมื่นบาทต่อเดือน เพื่อความอยู่รอดของต้นทุเรียนปลูกใหม่

'สระน้ำ' ขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 9 เมตร ลึก 5 เมตร ช่วยเก็บกักน้ำฝน และนำมาใช้ในช่วงภัยแล้ง ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เจ้าของสวนอภิรัญญา หนึ่งในสวนทุเรียนนนท์ ที่รอดพ้นจากเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ได้รับคำแนะนำนี้จากเกษตรจังหวัดนนทบุรี จึงขุดสระน้ำแห่งนี้ขึ้น เมื่อปีที่แล้ว(58)

พื้นที่ปลูกทุเรียน ร่วมกันพืชสวนชนิดอื่นกว่า 3 ไร่ จึงยังคงเขียวชอุ่ม ต่างจากสวนทุเรียนแปลงอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง และน้ำเค็มรุก จนต้องพึ่งพาน้ำประปาเพียงอย่างเดียว ซึ่งบางสวนฯ ต้องเสียค่าน้ำสูงถึงหลักหมื่นบาท เพื่อรักษาต้นทุเรียนปลูกใหม่ แม้จะยังไม่ให้ผลผลิตในปีนี้

วิกฤตน้ำที่กลายเป็นปัญหาสำคัญ สำหรับภาคการเกษตรของไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรอำเภอเมืองนนทบุรี ผลักดันให้เกษตรกร สละพื้นที่บางส่วนมาขุดสระน้ำ แต่ยอมรับว่า งบประมาณของภาครัฐอาจมีไม่เพียงพอ ดังนั้น เกษตรกรจึงต้องลงทุนเอง หรือหันมาขุดร่องสวนให้ลึกขึ้น

ปีนี้จะมีพื้นที่ให้ผลิผลิตทุเรียนนนท์เพียง 11 ไร่ แต่พื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหมดในจังหวัดนนทบุรีเพิ่มขึ้นเป็น 3 พันไร่ ดังนั้นการช่วยเหลือจากภาครัฐ จึงอาจไม่ทั่วถึงทันใจเกษตรกร 

หากใครที่มีกำลังเพียงพอ ก็ควรช่วยเหลือตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ความเสียหายทวีมากขึ้น จนกลายเป็นความสูญเสียซ้ำรอยเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554