สภาพอากาศร้อนจัดที่จังหวัดพิษณุโลก ทำให้ผลผลิตทุเรียนหลงรักไทย น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ด้านเจ้าของสวนบอก แม้ผลผลิตจะน้อย แต่จะขายราคาเท่าเดิม
ในพื้นที่บ้านซำต้อง หมู่ 9 ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นสวนทุเรียนแห่งแรกและแห่งเดียวของจังหวัดพิษณุโลก บนเนื้อที่ 45 ไร่ ที่ปลูกทุเรียนพันธุ์หลงรักไทย จำนวนกว่า 500 ต้น
นายวัน กาญจนเพ็ญ อายุ 45 ปี เจ้าของสวนทุเรียน เล่าว่า ปีนี้ประสบภัยแล้งอย่างหนักเนื่องจากอากาศที่ร้อนมากทำให้ต้นทุเรียนออกดอกมาน้อย ผลผลิตในปีนี้ คาดว่าล็อตแรกจะออกมาจำหน่ายได้ประมาณช่วงสงกรานต์นี้ ประมาณ 400-500 ลูก และล็อตที่ 2 ที่คาดว่าจะมีผลผลิตมากน่าจะเป็นช่วงเดือน มิถุนายนนี้ ประมาณ 20-30 ตัน
สำหรับราคาขายจะเน้นขายในราคาเดิม คือ 100-200 บาท ซึ่งจะไม่มีทางขึ้นราคาอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานของอร่อย มีคุณภาพ และราคาถูก แต่เนื่องจากผลผลิตมีไม่เพียงพอ อาจจะใช้วิธีให้โควตา ลูกค้ารายละไม่เกิน 30 ลูก หรืออาจจะคัดไซส์พิเศษ จำหน่ายในราคาพิเศษ ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์อีกที
สำหรับ ทุเรียนพันธุ์หลงรักไทย นายวัน เล่าว่า เอกลักษณ์และจุดเด่นของทุเรียนพันธุ์นี้ คือ เนื้อทุเรียนจะมีลักษณะเนื้อละเอียดแน่น ไม่เละจนเกินไป สีเหลืองทอง รสชาติหวานและหอม อร่อยกว่าทุเรียนพันธุ์หลินลับแลหลงลับแล ทั้งที่ต้นพันธุ์มาจากพันธุ์ทุเรียนพันธุ์หลินลับแลหลงลับแล อาจเป็นเพราะบ้านรักไทยสภาพอากาศเย็น แร่ธาตุในดินดีทำให้เนื้อทุเรียนที่นี่อร่อยกว่าที่อื่น เป็นที่ต้องการของท้องตลาด
จึงได้เปลี่ยนชื่อจากพันธุ์หลงลับแลเป็น "พันธุ์หลงรักไทย" เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ปัจจุบันทุเรียนพันธุ์หลงรักไทยเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก