Culture Corner ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2559

ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานอันแสนโรแมนติกที่ชาห์ชะฮาน ทรงสร้างเพื่ออุทิศแด่พระมเหสีผู้เป็นที่รัก มุมตัซมาฮาล เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่สุดในอินเดีย สีขาวบริสุทธิ์ของปราสาทหินอ่อนแห่งนี้ แทนความหมายของความรักอันบริสุทธิ์และยืนยงข้ามกาลเวลา 

แต่ในความเป็นจริง สีขาวของทัชมาฮาลกลับไม่ได้เป็นอมตะ หลังจากผ่านไป 350 ปี หินอ่อนที่สลักเสลางดงามวิจิตรก็มัวหมองลงไปมากจากฝุ่นละอองและควันพิษ ซัลเฟอร์ที่ปนเปื้อนในอากาศจากควันไอเสียรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม ทำปฏิกิริยากับหินอ่อนจนเป็นคราบเหลืองไม่น่ามอง

โชคดีที่หน่วยสำรวจโบราณวัตถุสถานแห่งอินเดีย หรือ ASI เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดูแลทัชมาฮาลให้คงความขาวบริสุทธิ์ ทุกๆ 5-10 ปี ทัชมาฮาลจะต้องเข้าคอร์สฟื้นฟูความงามให้กลับมาขาวสดใสเหมือนใหม่ และการฟื้นฟูพื้นผิวหินอ่อน ก็ใช้วิธีไม่ต่างกับการฟื้นบำรุงความงามของผิวหน้าสาวๆที่เป็นที่นิยมกันมานับพันๆปี นั่นก็คือการพอกโคลน 

ดินที่ใช้พอกทัชมาฮาล คือดินมุลตานี มิตติ หรือ อินเดียน ฟูลเลอร์ เอิร์ท ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นดินเกาลินที่แปรสภาพมาจากขี้เถ้าภูเขาไฟ นิยมใช้ในน้ำมันบำรุงผิวและครีมกำจัดสิว เนื่องจากมีฤทธิ์ฟอกสีผิวให้อ่อนลง และทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น เรียกว่าดินชนิดนี้ ใช้ปรับโฉม คืนความอ่อนเยาว์ได้ทั้งในคนและโบราณสถาน

สิ่งที่ขาดหาย ทำให้ความงามของอนุสรณ์สถานหินอ่อนแห่งนี้ไม่สมบูรณ์เหมือนเดิมก็คือความจริงที่ว่าการพอกโคลนฟื้นฟูความงามให้กับทัชมาฮาลเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ที่นี่เคยถูกทำความสะอาดใหญ่มาแล้วถึง 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2008 และในปี 2002 ศาลอินเดียก็เคยสั่งให้โรงงานอุตสาหกรรมในบริเวณรอบทัชมาฮาล ปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานที่สะอาดขึ้น เพื่อลดควันพิษ นอกจากนี้ รถยนต์ก็ยังถูกสั่งห้ามวิ่งในรัศมี 2 กิโลเมตรรอบโบราณสถานแห่งนี้ นักท่องเที่ยวต้องใช้รถไฟฟ้าหรือรถม้าแบบโบราณแทน แต่ทั้งหมดก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งมลภาวะทางอากาศ ต้นเหตุของความเสื่อมโทรมทั้งของทัชมาฮาล และสุขภาพของชาวอินเดียได้ 

ตอนนี้ หออาซาน 1 ใน 4 หอสูงรอบทัชมาฮาล ถูกทำความสะอาดจนกลับมาขาวสดใสกว่าหออื่นๆ แต่ไม่มีใครกล้าให้คำตอบว่าความขาวนี้จะคงอยู่ได้นานเท่าไหร่ ตราบใดที่ถ่านหินและน้ำมันยังเป็นพลังงานหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอินเดีย