เที่ยวชมฉากพุทธประวัติ ตอน เสวยวิมุตติสุข 7 แห่งใน 7 สัปดาห์หลังตรัสรู้ ในรูปประติมากรรม ศิลปะรัตนโกสินทร์ ที่วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ เทียบเคียงภาพจิตรกรรม ศิลปะอยุธยา ที่วัดเกาะ เพชรบุรี
งานช่างที่แสดงพุทธประวัติ ตอน พระพุทธเจ้าทรงเสวยวิมุตติสุขในสถานที่ต่างๆ 7 แห่ง แห่งละ 7 วัน เป็นเวลา 7 สัปดาห์ อันรวมเรียกสถานที่เหล่านั้นว่า สัตตมหาสถาน นั้น เป็นศิลปกรรมที่มีให้ชมในวัดเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย
ภาพสัตตมหาสถาน ที่รู้จักกันดีในหมู่นักประวัติศาสตร์ศิลปะ คือ ประติมากรรมในวัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ กับจิตรกรรมในวัดเกาะแก้วสุทธาราม เพชรบุรี ซึ่งเป็นศิลปะสมัยอยุธยา
ภาพจิตรกรรมในอุโบสถวัดเกาะแก้วสุทธาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดเกาะ มีจารึกระบุว่า เขียนขึ้นในพ.ศ. 2277 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จัดเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย
ภาพเขียน สัตตมหาสถาน เริ่มที่ด้านหลังพระประธาน ต่อเนื่องไปตามผนังทางด้านซ้ายขององค์พระ
สัตตมหาสถาน ปรากฏอยู่ระหว่างภาพเจดีย์ลวดลายวิจิตร ไม่ซ้ำแบบกัน
ตามพุทธประวัติ พระพุทธเจ้าใช้เวลาในสัปดาห์แรกหลังการตรัสรู้ ณ รัตนบัลลังก์ใต้ต้นโพธิ์ ทว่าในภาพจิตรกรรมวัดเกาะนั้น ไม่ปรากฏภาพการเสวยสุขในสัปดาห์ที่หนึ่งโดยตรง
พิชญา สุ่มจินดา (2556) ชี้ว่า ช่างเขียนใช้ภาพมารผจญทางด้านหลังพระประธานร่วมความหมายกับสัตตมหาสถาน ดังเห็นได้ว่าในภาพมารผจญ พระพุทธองค์แสดงปางสมาธิ มิใช่ปางมารวิชัยอย่างที่พบโดยทั่วไป
ดังนั้น จึงอธิบายได้ว่า ภาพเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์แรกหลังการตรัสรู้ ปรากฏอยู่ที่ภาพมารผจญ นั่นเอง
สัตตมหาสถานที่วัดสุทัศนเทพวราราม สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ รัชกาลที่ 3 ประติมากรรมชุดนี้ประกอบด้วยอาคาร แท่นประดิษฐาน และพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมทั้งต้นไม้ชนิดต่างๆตามพุทธประวัติ เรียงลำดับเป็นแนวตรงจากวิหารหลวงไปยังพระอุโบสถ ทางฟากตะวันออกของวัด
ในภาพ หลังจากแม่ธรณีบีบมวยผม น้ำหลากท่วมซัดกองทัพพญามารแตกพ่ายไป พระสิทธัตถะได้บำเพ็ญสมาธิจนตรัสรู้อริยสัจสี่ ตลอดสัปดาห์แรก พระพุทธองค์ประทับนั่งปางสมาธิ ทบทวนหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ในสัปดาห์ที่สอง พระพุทธเจ้าประทับยืน ทอดพระเนตรต้นโพธิ์ ประดุจไม่กระพริบตา ภาพเขียนที่วัดเกาะแสดงรูปพระพุทธองค์ยืนประสานพระหัตถ์ที่พระอุระ (หน้าอก)
ประติมากรรมที่วัดสุทัศน์ฯ แสดงเหตุการณ์สัปดาห์ที่สองด้วยพระพุทธรูปยืนปางถวายเนตร พระหัตถ์ประสานที่พระโสณี (ตะโพก) ประทับภายในปราสาทแบบจีน
ในสัปดาห์ที่สาม ทรงเดินจงกรม ภาพเขียนที่วัดเกาะ แสดงรูปพระพุทธองค์กำลังย่างพระบาท
ที่วัดสุทัศน์ฯ แสดงเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่สามด้วยพระพุทธรูปปางจงกรม หรือที่เรียกว่า พระพุทธรูปลีลา
ในสัปดาห์ที่สี่ พระพุทธเจ้าทรงนั่งสมาธิ เหล่าเทวดาเนรมิตเรือนแก้วให้เป็นที่ประทับ
เรือนแก้วที่วัดสุทัศน์ฯ ทำด้วยศิลาสลักเป็นรูปปราสาทแบบจีน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ พระพุทธองค์ทรงพิจารณาพระอภิธรรมภายในเรือนแก้วนั้นตลอดสัปดาห์ที่สี่หลังการตรัสรู้
ในสัปดาห์ที่ห้า ทรงประทับเสวยวิมุตติสุขใต้ต้นไทร ซึ่งเป็นที่พักร่มของคนเลี้ยงแพะ
พุทธประวัติกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ห้า ธิดาพญามารทั้งสาม คือ นางตัณหา นางราคา และนางอรดี มายั่วยวน แต่พระพุทธองค์ทรงขับไล่ไป
ในสัปดาห์ที่หก ทรงประทับนั่งขัดสมาธิใต้ต้นจิก ใกล้สระบัว เกิดพายุฝนตกหนัก พญานาคชื่อ มุจลินท์ มีความเลื่อมใส จึงออกจากนาคพิภพมาขนดตัวรอบพระพุทธองค์ 7 รอบ แผ่พังพานปกคลุมเหนือพระเศียร ปกป้องพระองค์จากลมและฝน
จุดเด่นของสัตตมหาสถานในสัปดาห์ที่หก ที่วัดสุทัศน์ฯ อยู่ที่พระพุทธรูปปางนาคปรก ทำเป็นรูปตัวพญานาคหุ้มพระพุทธเจ้าตามที่กล่าวถึงในคัมภีร์ทางศาสนา ไม่ได้ทำเป็นเพียงขนดนาคหนุนรับองค์พระ อย่างที่มักเห็นกันทั่วไป
ในสัปดาห์ที่เจ็ด พระพุทธเจ้าประทับใต้ต้นเกด มีพ่อค้า 2 คน คือ ตปุสสะ และภัลลิกะ นำข้าวสัตตุก้อนสัตตุผงมาถวาย
ที่วัดสุทัศน์ฯ พระพุทธรูปในสัปดาห์ที่หกเป็นปางรับผลสมอ ใกล้กันมีหินสลักรูปพ่อค้าและรถม้าของพ่อค้าทั้งสอง
ภาพสัตตมหาสถานในพระอารามทั้งสองแห่ง นับว่ามีความโดดเด่นคนละด้าน
จิตรกรรมที่วัดเกาะนับเป็นภาพเขียนสมัยอยุธยาตอนปลายเพียงน้อยแห่งที่ยังหลงเหลือในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ขณะที่ประติมากรรมที่วัดสุทัศน์ฯนั้นสะท้อนอิทธิพลศิลปะจีนในสมัยต้นรัตนโกสินทร์.
เอกสารอ้างอิง
เนื้ออ่อน ขรัวทองเขียว. (2556). ความเข้าใจในจิตรกรรมไทยประเพณี. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิชญา สุ่มจินดา. (2556). มหาโพธิบัลลังก์กับคติจักรวาลที่เปลี่ยนไป ในอุโบสถวัดเกาะแก้วสุทธาราม จังหวัดเพชรบุรี. ใน เอกสารประกอบการสัมมนาวิชาการประจำปี 2555/2556 อาเซียนศึกษา. (24-25 มกราคม) คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์.
ศักดิ์ชัย สายสิงห์. (2551). งานช่างสมัยพระนั่งเกล้าฯ. กรุงเทพฯ : มติชน.
สันติ เล็กสุขุม. (2548). จิตรกรรมไทยสมัยรัชกาลที่ 3 : ความคิดเปลี่ยน การแสดงออกก็เปลี่ยนตาม. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ.
ติดตาม ไทยทัศนา ย้อนหลัง
ไทยทัศนา : (1) วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพฯ
ไทยทัศนา : (2) วัดสุวรรณาราม ฝั่งธนบุรี
ไทยทัศนา : (3) วัดราชโอรส ฝั่งธนบุรี
ไทยทัศนา : (4) วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพฯ
ไทยทัศนา : (5) วัดสุวรรณดาราราม อยุธยา
ไทยทัศนา : (6) วัดเสนาสนาราม อยุธยา
ไทยทัศนา : (7) วัดจันทบุรี สระบุรี
ไทยทัศนา : (8) วัดสมุหประดิษฐาราม สระบุรี
ไทยทัศนา : (9) วัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี
ไทยทัศนา : (10) วัดบางขุนเทียนใน ฝั่งธนบุรี
ไทยทัศนา : (11) วัดซางตาครู้ส ฝั่งธนบุรี
ไทยทัศนา : (12) วัดบางขุนเทียนนอก ฝั่งธนบุรี
ไทยทัศนา : (13) วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม
ไทยทัศนา : (14) วัดนิเวศธรรมประวัติ อยุธยา