ไม่พบผลการค้นหา
ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองวันตรุษจีนอย่างนี้ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการเชิดสิงโตเพื่อความเป็นสิริมงคล แม้แต่ในมาเลเซีย ประเทศที่วัฒนธรรมมุสลิมเป็นใหญ่ ก็ยังมีกิจกรรมนี้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองวันตรุษจีนอย่างนี้ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการเชิดสิงโตเพื่อความเป็นสิริมงคล แม้แต่ในมาเลเซีย ประเทศที่วัฒนธรรมมุสลิมเป็นใหญ่ ก็ยังมีกิจกรรมนี้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน 

การเชิดสิงโตเพื่อขับไล่วิญญาณร้ายและเสริมความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่น เมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้ว และยังคงได้รับการสืบทอดจนถึงปัจจุบัน

ในอดีตชาวจีนนิยมเชิดสิงโตกันทุกอำเภอ โดยมักฝึกฝนการเชิดในสำนักวิทยายุทธต่างๆ และมีอาจารย์ผู้สอนมวยเป็นผู้ฝึกให้ในยามว่าง ซึ่งท่าเชิดสิงโตส่วนใหญ่ถูกดัดแปลงมาจากท่าฝึกมวย 

นอกจากการฝึกท่าเชิดสิงโตแล้ว งานฝีมือในการสร้างชุดและหัวเชิดสิงโตก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และต้องใช้เวลาเรียนรู้นานหลายปี เช่น นายเสี่ยวโหฟิว ชาวมาเลเซีย เชื้อสายจีน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นช่างฝีมือทำหัวสิงโตมากว่า 30 ปีแล้ว ด้วยความหลงใหลในศิลปะแขนงนี้

เขาเล่าว่าเริ่มทำหัวสิงโตเองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพราะการสั่งซื้อหัวสิงโตจากประเทศจีนมีราคาแพง เขาจึงค่อยๆ เรียนรู้วิธีการทำหัวสิงโตด้วยตัวเอง และลองผิดลองถูกอยู่นานหลายปี จนสำเร็จ และเป็นที่ชื่นชอบในหมู่คณะเชิดสิงโตต่างๆในมาเลเซีย

การทำหัวเชิดสิงโตมีขั้นตอนหลักๆอยู่ 3 ขั้น ขั้นแรกคือทำโครงจากไม้ไผ่ให้ได้ขนาดพอดีและแข็งแรง ขั้นที่สองคือการทำเปเปอร์มาเช่ให้ออกมาเป็นรูปหัวสิงโต และขั้นสุดท้ายคือการทาสีหัวสิงโตให้สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ 

นายเสี่ยวโหฟิว เล่าว่าอาชีพทำหัวเชิดสิงโตเป็นอาชีพที่มั่นคง ในแต่ละปี เขาจะได้รับคำสั่งผลิตรวมถึงซ่อมแซมหัวสิงโตจำนวนมาก เพราะเทศกาลตรุษจีนมีการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีในมาเลเซีย และขณะนี้ก็เผยแพร่ไปทั่วโลกแม้แต่ในยุโรปหรือสหรัฐฯ ซึ่งเขาเชื่อมั่นว่าเทศกาลตรุษจีนและการเชิดสิงโตจะยังคงอยู่คู่กับชาวจีนตลอดไป

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog