เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
ร่างของปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ พระเอกชื่อดัง เดินทางถึง จ.บุรีรัมย์ เพื่อประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพคืนแรก ขณะที่การทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ระหว่างการเคลื่อนร่างของปอ-ทฤษฎี จนผ้าคลุมหน้าเกือบหลุด แผงเหล็กล้ม รวมทั้งญาติและพระสงฆ์ยังถูกเบียด ด้าน สธ.ระบุ จะมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในปีนี้ (59) สูงกว่าปี 2558
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โปรดให้ผู้แทนพระองค์ อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพนายทฤษฎี สหวงษ์ หรือ ปอ ดาราและนักแสดงของช่อง 3 และเชิญพวงมาลาประทานไปวางที่หน้าหีบศพ ณ ศาลาธรรมานุภาพ 2 วัดกลางพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีการตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี โดยมีประชาชนจำนวนมาก หลั่งไหลร่วมรดน้ำศพเนืองแน่น
และในช่วงค่ำที่ผ่านมา มีการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ในคืนแรก โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นประธาน และร่วมเป็นเจ้าภาพกับครอบครัวสหวงษ์ โดยจะมีพิธีจนถึงวันที่ 23 มกราคม 2559 ก่อนที่จะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณีต่อไป
อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายศพของปอ-ทฤษฎี ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อช่วงเช้า จากห้องสุดท้าย หรือ ห้องดับจิต ไปยังรถร่วมกตัญญู และ มีการเอาแผงเหล็กมากั้นในระยะห่างพอสมควร เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำศพปอเคลื่อนออกมา สือมวลชนได้ทลายแผงกั้น เบียดทั้งครอบครัวของปอ-ทฤษฎี รวมทั้งโบว์-แวนด้า ภรรยา แม้แต่พระสงฆ์ และความชุลมุนพยายามเบียดเจ้าหน้าที่ ทำให้ผ้าคลุมหน้าของปอ ทฤษฎี เปิดเห็นช่วงบริเวณหน้าผาก ระหว่างการเคลื่อนย้าย ทำให้ในโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
รวมทั้งเว็บไซต์ Chane.org เรียกร้อง องค์กรวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชน ในแคมเปญ"อยากให้สื่อไทยมี “จรรยาบรรณวิชาชีพ” หรือ “มารยาททางสังคม” มากว่านี้!" จากการกรณีของปอ-ทฤษฎี และก่อนหน้านี้ เช่นกรณีของ สิงห์ มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ sqweez animal ที่การรุมถ่ายรูปศพ การรุมสัมภาษณ์ญาติและคนสนิท เป็นการได้ข่าวมาซึ่งการ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่แย่มากในสื่อไทยทุกวันนี้ ซึ่งเราเห็นจนชินตา จนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาใคร ๆ ก็ทำได้ “เพียงเพราะเป็นสื่อ”
หากเรายังคงเพิกเฉย ปล่อยให้มีการกระทำแบบนี้อยู่ ต่อไปใครๆก็ทำสื่อได้ เพียงแค่มีกล้องในมือ มีที่ให้ลงข่าว เช่นเพจ หรือ สื่อออนไลน์ทั่วไปก็ลงได้ คงไม่ต้องมีแล้ว “จรรยาบรรณวิชาชีพ” หรือ “มารยาททางสังคม” ซึ่งเพียงไม่ถึง 1 วัน มีผู้ลงชื่อสนับสนุนผ่าน Change.org มากกว่า 10,000 รายแล้ว
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในปี2559จะมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ที่มียุงลายเป็นพาหนะนำโรคประมาณ166,000คน สูงกว่าปี2558ที่142,925 คน เสียชีวิต141 คน โดยจะพบผู้ป่วยเฉลี่ย5,000-7,500คน ต่อเดือน และจะพบสูงขึ้นในฤดูฝนช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม อาจมากกว่า 25,000คนต่อเดือน
โดยให้ทุกหน่วยงาน รณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการร่วมมือป้องกัน ควบคุมโรคอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง ทั้งการกำจัดลูกน้ำยุงลายกำจัดยุงตัวแก่การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และการป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด โดยเฉพาะในอำเภอที่คาดว่าจะเสี่ยงต่อการระบาดสูงที่มีมากถึง 228 อำเภอ ใน 56 จังหวัด โดยเฉพาะแหล่งชุมชน และช่วงนี้เป็นเวลาสำคัญ โอกาสทองในการกำจัดลูกน้ำยุงลายให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อลดการเกิดโรคในฤดูฝนของปีนี้
โดยใช้มาตรการ 3 เก็บ ได้แก่ เก็บบ้านให้สะอาดเรียบร้อยปลอดโปร่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง , เก็บขยะ เศษภาชนะ รอบๆ บ้าน ทั้งใบไม้ กล่องโฟม จานรองกระถางต้นไม้ ต้องเก็บกวาด ฝัง เผา หรือทำลาย และ เก็บน้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ดำเนินการไปพร้อมๆ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และการป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด
สำหรับโรคไข้เลือดออกที่พบในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดจากไวรัสเดงกี่ ซึ่งมี 4 สายพันธุ์ และหากพบว่ามีอาการ ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที เพราะโรคนี้ไม่มียารักษาเฉพาะ การรักษาแบบประคับประครอง การเฝ้าสังเกตอาการจึงมีความสำคัญ
โดยเฉพาะในช่วงไข้ลด และขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษในกลุ่มเสี่ยง เช่น คนอ้วน ผู้ที่มีโรคประจำตัว หญิงมีประจำเดือน ผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก เตือนประชาชน หากมีไข้สูง อย่าซื้อยากินเอง เพราะยาบางชนิด แม้มีฤทธิ์ในการลดไข้ได้ดี แต่ตัวยาเองมีฤทธิ์ทำให้เลือดออกได้ง่าย ยาลดไข้ที่ใช้ คือ ยาพาราเซตามอลเท่านั้น ต้องรีบไปพบแพทย์