หลังจากที่ญี่ปุ่น ประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักในปีที่ผ่านมา ล่าสุด รัฐบาลประกาศนโยบายเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม มากขึ้นถึงเท่าตัว เพื่อนำมาแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ

รัฐบาลญี่ปุ่นผ่านร่างนโยบายที่จะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อนำงบประมาณมาแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ ซึ่งแผนการดังกล่าว อยู่ระหว่างการรับรองจากสภา และเมื่อสภาให้การรับรองแล้ว จะส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่มของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 8 ในเดือนเมษายน ในปี 2557 จากนั้น จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 ภายในเดือนตุลาคม ปี 2558

ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศนโยบายดังกล่าว ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่พรรคฝ่ายค้าน และประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก

ขณะที่ นายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นก็แถลงการณ์ยืนยันว่า ญี่ปุ่นไม่มีเวลามากพอที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินของประเทศ เพราะหากว่าไม่เร่งแก้ไขในตอนนี้ ภาระหนี้สินก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลต้องใช้งบประมาณกว่า 198,000 - 309,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการฟื้นฟูประเทศ

ขณะที่ปัจจุบัน ญี่ปุ่นต้องแบกรับภาระหนี้สินกว่าร้อยละ 228 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี คิดเป็นมูลค่ากว่า 10.5 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ งบประมาณด้านประกันสังคมและสาธารณสุขก็เพิ่มมากถึง 12,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจาก ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีประชากรในวัยเกษียณเป็นจำนวนมาก โดยทางการญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ภายในปี 2603 ประชากรกว่าร้อยละ 40 ของประเทศ จะอยู่ในช่วงเกษียณอายุ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเป็นผู้แบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลประชากรกลุ่มนี้ทั้งหมด

Produced by VoiceTV