ซีพีเอฟ ยอมรับยอดขาดอาหารทะเลทั่วโลกลดลง ยังถูกสื่อต่างชาติทำข่าวเรื่องแรงงานทาสในอุตสาหกรรมกุ้งแช่แข็ง ทำให้ทางบริษัทต้องจ้างบริษัทต่างชาติมาตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้

หลังสำนักข่าวเอพีเปิดประเด็นการใช้แรงงานทาสในอุตสาหกรรมกุ้งแช่แข็งไทย ทำให้เกิดกระแสบอยคอตไม่ซื้อสินค้าอาหารทะเลไทยกว้างขวางทั่วโลก ผ่านไปไม่กี่เดือน กระแสที่ว่านี้ได้ผลอย่างดี เมื่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารทะเลรายใหญ่อย่างซีพีเอฟ ยอมรับว่ายอดขายทั่วโลกลดลง และจะเร่งปรับปรุงแก้ไขปัญหานี้

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่ายอดขายสินค้าของซีพีเอฟที่ลดลง ทำให้ทางบริษัทต้องว่าจ้างบริษัทจากต่างประเทศมาตรวจสอบเรือประมงและโรงงานอุตสาหกรรมปลาป่น ที่ซีพีเอฟรับซื้อ พร้อมกับเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทให้ผู้บริโภคและลูกค้ารับทราบโดยหวัง ว่าในอนาคตอันใกล้ลูกค้าจะทยอยกลับมาซื้อสินค้าอาหารทะเลเช่นเดิม 

นายอดิเรกยังกล่าวอีกว่าปัญหาค้ามนุษย์มาจากเรือประมงโดยเฉพาะ และส่งผลกระทบมาที่โรงงานอุตสาหกรรมปลาป่น ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบที่ซีพีเอฟใช้สำหรับเลี้ยงกุ้ง ขณะที่กุ้ง ซีพีเอฟส่งออกไปยังต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อมีรายงานต่างๆ ออกมา ซีพีเอฟจึงไม่อยากหลีกเลี่ยงปัญหาแต่ต้องการสร้างความมั่นใจในหมู่ผู้บริโภค เพื่อไม่ให้กระทบกับรายได้ของซีพีเอฟ ซึ่งในปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ขณะที่มีรายได้ภายในประเทศ 30% รวมรายได้ทั้งหมด 400,000 ล้านบาทต่อปี และตั้งเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้า ให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 700,000 ล้านบาท