ไม่พบผลการค้นหา
หลังจากค่ายหนังอารมณ์ดี GTH ประกาศยุติกิจการ 31 ธันวาคมนี้ หลังมีทัศนคติการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ตรงกัน แต่ปรากฏ ฟ้า พูลวรลักษณ์ ออกมาเปิดเผยว่า มีความพยายามรัฐประหารบริษัท จากฝั่งของหับโห้หิ้น ขณะที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ และ หับโห้หิ้น เตรียมแถลงข่าวเปิดบริษัทใหม่ วันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.)

หลังจากค่ายหนังอารมณ์ดี GTH ประกาศยุติกิจการ 31 ธันวาคมนี้ หลังมีทัศนคติการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ตรงกัน แต่ปรากฏ ฟ้า พูลวรลักษณ์ ออกมาเปิดเผยว่า มีความพยายามรัฐประหารบริษัท จากฝั่งของหับโห้หิ้น  ขณะที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ และ หับโห้หิ้น เตรียมแถลงข่าวเปิดบริษัทใหม่ วันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.) 
        
หลังจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท ฮับ จำกัด หรือ GTH แถลงข่าวปิดบริษัท หลังวันที่ 31 ธันวาคมนี้ หลังผู้บริหารมีความคิดแตกต่างกันถึงแนวทางพัฒนาบริษัท โดยเฉพาะการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ 

ล่าสุด  "ฟ้า พูลวรลักษณ์" นักเขียน  ทายาทของนายเจริญ พูลวรลักษณ์ และเป็นพี่ชายของนายวิสูตร พูลวรลักษณ์ เจ้าของบริษัท ไทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GTH เขียนบทความ  " หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๐๐)" ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25-31 ธันวาคม 2558  แต่เนื้อหาทั้งหมด ได้เขียนเบื้องหลังการปิดบริษัท GTH ว่า หับโหหิ้น ถือหุ้นน้อยที่สุด แต่ทำงานมากที่สุด จนครอบทั้งบริษัท 
           
ทำไมถึงได้ผลประโยชน์น้อยกว่าเพื่อน อย่างนี้ไม่ยุติธรรม จึงเดินเข้ามาหาไท แล้วขอซื้อหุ้นครึ่งหนึ่งของไท ในราคาพาร์ มันเป็นการยื่นคำขาด เหมือนจี้ด้วยปืน นี้คือการทำรัฐประหาร กระทำโดยกลุ่มคนที่คุมกำลังพล  โดยมี Plan A ของหับ คือการซื้อหุ้นจากไทและแกรมมี่   แต่พวกเขาไม่ยอม fair play เพราะพวกเขาไม่กลัวการปิดบริษัท เพราะเชื่อว่า  พวกเขาจะเปิดใหม่ได้ เนื่องจากทีมงานทั้งหมด เป็นของหับ เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ
     
ตอนนั้นคุณวิสูตรทำผิดครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยความใจอ่อนและโง่เขลา เสนอไอเดียให้ออกข่าวดังนี้ว่า ไทต้องการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนหับยังไม่พร้อม อาจต้องรออีกหลายปี ส่วนแกรมมี่บอกว่ายังไงก็ได้ แล้วแต่พวกคุณตกลงกัน  หากตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องปิดบริษัท นี้คือข่าวที่สังคมข้างนอกรับรู้
        
ถามคุณวิสูตรว่าทำไมตัดสินใจอย่างนั้น เขาบอกว่าเป็นห่วงภาพลักษณ์ของแกรมมี่ แต่ทำไมไม่ห่วงตัวเอง นี้คือความ sentimental ของเขา เป็นความคนใจอ่อนแบบผู้หญิง  ยิ่งมาบวกกับความอ่อนแอและโง่เขลา มันกลายเป็นสามความผิด  หากคุณวิสูตรมีสติ เขาไม่ควรสร้างภาพ หลอกลวงประชาชน พวกเขาควรจะพูดความจริง แล้วให้ประชาชนตัดสิน หรือหากต้องการรักษาหน้ากันไว้ ก็เพียงแค่ประกาศว่า เราต้องการแยกทางกันด้วยเหตุผลส่วนตัว 
        
ทำให้ฝ่ายไท ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ  ไทเป็นคนโลภและโง่เขลา   ซึ่งไม่จริงทั้งสิ้นทั้งปวง เรื่องจริงคือหับไม่เป็นสุภาพบุรุษ หักหลังเพื่อน เพราะหับมี plan B พวกเขาก็ไม่ฉายเดี่ยว จะกลับไปหุ้นกับแกรมมี่ใหม่  ขจัดไทออกไปได้  ในความรู้สึกของพวกเขา เห็นว่าคุณวิสูตรเป็นเสือเฒ่าที่หมดเขี้ยวเล็บ หมดประโยชน์ อยู่ไปก็รังแต่จะเป็นเหลือบเกาะกินส่วนแบ่งกำไร  แกรมมี่ แม้จะรู้ว่าหับเป็นฝ่ายหาเรื่อง แต่พ่อค้าจะคำนึงถึงผลประโยชน์เฉพาะหน้า แม้เขาจะรู้ว่า คนที่หักหลังเพื่อนได้  ก็ย่อมจะหักหลังเพื่อนได้อีก แต่วันนั้นยังมาไม่ถึง วันนี้คุยเรื่องผลประโยชน์ตรงหน้า

รวมทั้งภาพยนตร์พี่มากพระโขนงที่ทำเงินถึง 1 พันล้านบาท ทำให้หับมองว่า ทำไมต้องมาแบ่งผลประโยชน์ให้ไท ที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย  GTH ทำกำไรติดกันหลายปี ตามกติกาของการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทนั้นต้องมีผลประกอบการมีกำไรติดกันอย่างน้อยสามปี ซึ่งเท่ากับว่า GTH มีคุณสมบัติเข้าไปได้ และนำผลประโยชน์มหาศาลสู่สามหุ้นส่วน แต่เพราะความโลภ จึงปิดบริษัท
         
ผลที่ออกมา อาจเป็นไปได้ว่าบริษัทใหม่ของหับไม่ประสบความสำเร็จ และไทที่กลับมาสร้างหนังใหม่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ หรือบริษัทใหม่ของหับประสบความสำเร็จก็น่าสนใจยิ่งนัก แสดงว่าอาถรรพ์แม่นาคไม่เป็นความจริง และกฎแห่งกรรมก็ไม่ค่อยมีความหมาย แม้แต่หลักจริยธรรมก็ไม่สำคัญ   กลายเป็นหลักเกณฑ์ของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดิน ฉันว่าแปลกดี และน่าจับตายิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม หลังบทความดังกล่าว ยังไม่มีการชี้แจงจากทั้ง 3 บริษัทแต่อย่างใด แต่ในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.) นางสาวบุษบา ดาวเรือง จากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่  และ นางสาวจินา โอสถศิลป์ จากหับโห้หิ้น จะแถลงข่าว เปิดชื่อบริษัทใหม่  โดยมีนักแสดง อาทิ เต๋อ-ฉันทวิชช์, มาร์ช-จุฑาวุฒิ, พีค-ภัทรศยา, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ต่อ-ธนภพ, ฝน-ศนันธฉัตร และ เจมส์-ธีรดนย์  มาร่วมงานด้วย ที่บริษัท หับโห้หิ้น บางกอก จำกัด (สุขุมวิท 31) 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog