ไม่พบผลการค้นหา
สุดสัปดาห์นี้ หากใครยังหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจไม่ได้ ขอแนะนำ ดาษดาแกลเลอรี่ จ.ปราจีนบุรี ที่นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับกลิ่นอายธรรมชาติแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของดอกไม้ น้ำพุเต้นระบำและอุโมงค์ไฟรูปหัวใจอีกด้วย

สุดสัปดาห์นี้ หากใครยังหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจไม่ได้ ขอแนะนำ ดาษดาแกลเลอรี่ จ.ปราจีนบุรี ที่นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับกลิ่นอายธรรมชาติแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของดอกไม้ น้ำพุเต้นระบำและอุโมงค์ไฟรูปหัวใจอีกด้วย 

ดอกไม้นานาพรรณนับล้านดอก  น้ำพุเต้นระบำ และอุโมงค์ไฟเรืองแสงรูปหัวใจที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นี่คือไฮไลท์ของเทศกาลดอกไม้ ที่ดาษดาแกลเลอรี่ จ.ปราจีนบุรี ได้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "Art in HeArt  แค่เห็นก็เข้าใจ" ท่ามกลางขุนเขาธรรมชาติ บริเวณเชิงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  บนพื้นที่กว่า 900 ไร่ โดยแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวออกเป็น 5 โซนสำคัญ  มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ซึ่งทางดาษดาเองก็จะมีรถราง รถจักรยานไว้ให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปในแต่ละโซน

เริ่มจากโซนแรก Heart of the Glasshouse จะแบ่งเป็น 2 จุดหลัก จุดที่ 1 คือ Arrival Hall และ Hall A เป็นการจัดแสดงดอกไม้ใน Terrarium ขนาดใหญ่และเรือนกระจก ซึ่งได้นำกล้วยไม้ฟาแลนนอฟซิสสายพันธุ์ใหม่กว่า 50,000 ต้น มาจัดแสดง ส่วนจุดที่ 2 คือ Art room เป็นห้องแสดงผลงานศิลปะการจัดสวนในขวดแก้ว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์กว่า 12 เรื่อง ออกแบบและจัดดอกไม้โดย ครูกอล์ฟ พิทักษ์ หังสาจะระ 

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

เดินมาอีกนิดจะพบกับโซนที่ 2 Heart of the Season จัดแสดงภายใน Hall B เป็นการแสดงดอกไม้ในห้องมืดร่วมกับเทคนิค 3D Mapping หรือการสาดแสงสีใส่ดอกไม้ เป็นเรื่องราวของฤดูกาลต่างๆ กับความรัก นอกจากนี้ผู้ที่เข้าชมโดยเฉพาะเด็กๆ ยังสามารถสนุกสนานกับ Interactive Garden หรือการทำท่าทางต่างๆ บนจอภาพขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้หลายชนิด ซึ่งในโซนนี้ออกแบบโดย Miss Lee Hu Lih-Ying นักจัดดอกไม้ชาวไต้หวัน และคุณสันต์ ฐนพล เจตวรัญญู 

       

       

       

ติดกับโซนที่ 2 สามารถนั่งพักผ่อนได้ที่ร้านขนม Lalalla แวะรับประทานเบเกอรี่ เครื่องดื่มและไอศครีม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในซิกเนเจอร์ของดาษดาอีกด้วย 

ถัดมาในโซนที่ 3 Heart of Field  เดินทางโดนรถรางหรือจะนั่งเรือชมบรรยากาศภายในดาษดา ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 15 นาที ก็จะถึงโซนที่ 3 ประกอบไปด้วย ศาลาเทวดา จุดชมวิว 360 องศา ศาลาหลากสี ทุ่งดอกไม้ โซนนี้เป็นโซนที่ขยายเพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นพักผ่อน ปั่นจักรยานชิวๆ ถ่ายภาพกับตุ๊กตาหมีตัวยักษ์ และยังสามารถทำโปสการ์ด D.I.Y. ส่งกลับบ้าน ผ่านตู้ ปณ.ดาษดา ได้อีกด้วย 

       

       

       

       

       

       

ส่วนโซนที่ 4 Heart of Outdoor มีกิจกรรมที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Tea House by Dasada ร้าจำหน่ายชาดอกไม้และน้ำดอกไม้ของดาษดา , ตลาดลอยน้ำ ที่ดาษดาเปิดให้ชาวปราจีนบุรีเข้ามาขายอาหารและสินค้าท้องถิ่น โดยไม่คิดค้าเช่าแผง ซึ่งจะเปิดในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 

       

       

โซนที่ 4 ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีสวนเพื่อนตัวน้อย Tiny Park สามารถเดินเล่น ถ่ายรูปและให้อาหารสัตว์ อาทิ นกหลากหลายสายพันธุ์ ไก่ฟ้า นกยูงไทย-อินเดีย แพะ แกะและกระต่าย  นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่ชอบความตื่นเต้น ยังสามารถขับรถ ATV ชมวิวภายในพื้นที่ของดาษดาและอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรือนเปิดดอกกล้วยไม้ฟาแลนนอฟซิส , เนินแม่ตะเคียน , อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ , ศาลาเทวดา , ฝายน้ำและสัตว์ป่าท้ายไร่ รวมระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตร 

       

       

       

       

       

       

สำหรับโซนที่ 5 Heart of the Night ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของงานเลยทีเดียว นั่นคือ อุโมงค์ไฟเรืองแสงรูปหัวใจที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป , น้ำพุเต้นระบำ (Dancing Fountain) ที่น้ำพุและแสงไฟจะเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเล่นกับน้ำพุให้ตัวเปียกได้อีกด้วย และที่สำคัญทีมผู้สร้างน้ำพุเต้นระบำนี้ เป็นทีมเดียวกับ Dubai Fountain และ Bellagio Hotel and Casino เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา 

       

       

       

       

       

       

       

       

สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 โซน นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ภายในวันเดียวและเดินทางกลับ แต่ถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหน ที่ต้องค้างคืน ก็สามารถเปิดห้องพักภายในดาษดาหรือดาษดารีสอร์ท พักเอาแรงก่อนกลับบ้านได้ นอกจากนี้ระเบียงของห้องรับประทานอาหารเช้าของดาษดารีสอร์ท ยังสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขา 2 ลูกไปพร้อมๆ กัน นั่นคือเขาใหญ่และเขาอีโต้ ได้อีกด้วย

       

       

ก่อนเดินทางกลับ นักท่องเที่ยวสามารถแวะที่ห้องอาหาร Bloom ศูนย์อาหารของดาษดา ที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น โอบล้อมด้วยวิวบ่อน้ำขนาดใหญ่ พร้อมบริการด้วยอาหารที่รังสรรค์จากดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็น บุปผา 3 รส , เมี่ยงดอกไม้ , ปอเปี๊ยะดอกไม้ , พล่าปลาแซลมอนกับดอกไม้และแกงส้มบุษบากับปลาสลิดทอด 

       

       

       

       

       

       

ดาษดาแกลเลอรี่ จ.ปราจีนบุรี อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ผู้ที่สนใจหรือต้องการหนีความวุ่นวายของเมืองกรุง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 037-239-800 ,  061-404-5000 หรือ Facebook : Dasadafolwer โดยงานเทศกาลดอกไม้ได้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ยาวไปจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 เลยทีเดียว 

เวลาเปิดจำหน่ายบัตร : จ.-พฤ. เวลา 09.00 - 18.00 น. / ศ.-อา. เวลา 09.00 - 19.00 น. 
ผู้ใหญ่ 250 เด็ก 150 บาท

แผนที่ คลิ๊กที่นี่ 

 

 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog