นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร เปิดเผยถึงแนวทางในการดำเนินงานปีนี้ว่า บริษัทมุ่งเน้นในการสื่อสารสร้างความเข้าใจในเรื่องของเครดิตบูโรหรือข้อมูลสินเชื่อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการตัดสินใจปล่อยสินเชื่อและใช้ในการบริหารการจัดการสินเชื่อของสถาบันทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดเก็บข้อมูลเครดิตบูโรในไทยมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว  ซึ่งข้อมูลนี้มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมากในแง่ของการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล 

 

นายสุรพล กล่าวอีกว่า บริษัทจะเร่งเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลเครดิต  โดยจะเปิดศูนย์ให้บริการตรวจเครดิต ที่สถานีไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง และร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆเปิดจุดบริการในศูนย์การค้า และเพิ่มเครื่องมือช่วยการตัดสินใจอนุมัติสินเชื่อที่เรียกว่า "เครดิตสกอริ่ง"  หรือคะแนนเครดิตของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดพฤติกรรมและความตั้งใจในการชำระหนี้ ว่ามีวินัยในการชำระเงินที่ตรงเวลาครบถ้วนหรือไม่ ควบคู่ไปกับข้อมูลเครดิตที่สถาบันการเงินมีอยู่แล้ว  

 

ขณะที่การเช็คข้อมูลนี้  ยังเป็นประโยชน์กับตัวผู้ขอยื่นดูข้อมูลเครดิตเองด้วย เพราะจะได้รู้ว่ามีใครนำเอกสารไปใช้ขอสินเชื่อ หรือว่าเกิดข้อผิดพลาดในข้อมูลอย่างไร โดยจะมีการทดลองระบบนี้ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์  และจะเร่งผลักดันให้มีการใช้งานได้จริงในเดือนเมษายนนี้

 

ปัจจุบันเครดิตบูโร มีธนาคารพาณิชย์ 72 รายเป็นสมาชิก ยกเว้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และมีฐานข้อมูลบัญชีสินเชื่อทั้งหมด 62 ล้านบัญชี 

 

Produced by VoiceTV