เปิดประวัติ "พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนใหม่
วันนี้ (27ต.ค.58) มีการเผยแพร่หนังสือ ที่ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งที่ 595/2558 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2558 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยแต่งตั้งให้ พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา เป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทนที่ พลตำรวจเอกประวุฒิ ถาวรศิริ พร้อมด้วยรองโฆษกอีก 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง พลตำรวจตรี ทรงพล วัธนะชัย พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ และ พันตำรวจโท ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ โดยมีผลทันที
สำหรับประวัติของ พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นั้น สำเร็จการศึกษา วิชาสามัญจาก โรงเรียนเตรียมทหาร (นรต.17) วิชาการตำรวจโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.33) ระดับปริญญาโทจาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร พ.ศ. 2555
มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นพิเศษ จำนวนมาก ดังนี้
1.เป็นพนักงานสอบสวนดีเด่นของกรมตำรวจ ปี 2534
2.เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2542 ครั้งดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ,บช.ปส.กวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามแผนยุทธการเกาะหลัก 42 แล้วสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมยาบ้ารายใหญ่ได้
3. เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2543 จับกุมและสืบสวนขยายผลกรณีจับกุมยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ สภ.ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ของกลางยาบ้า 4,354,000 เม็ด
4.เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2544 ได้รับโล่และประกาศเกียรติคุณดีเด่น ด้านปราบปรามยาเสพติด ณ ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล จากนายกรัฐมนตรี
5.เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2545 เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจับกุมผู้ต้องหาชาวรัสเซีย พร้อมของกลางซึ่งได้ร่วมกันปล้นทรัพย์มาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาพัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี และได้ใช้อาวุธยิง ด.ต.ทรงกิตติ มณีโชติ ถึงแก่ความตาย ได้ทรัพย์สินและเงินสด รวม 2,400,000 บาท แล้วหลบหนี ลงเรือมาทางฝั่งทะเลเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
6 เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีร่วมกันฆ่า นายเจริญ วัดอักษร และร่วมทำการสืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีได้ทั้ง 4 คน
7. เมื่อวันที่ 12-27 ตุลาคม 2548 ครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้เป็นผู้ควบคุม วางแผน สั่งการในการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่หลายจังหวัด โดยสามารถขยายผลจับกุมผู้ค้ารายสำคัญได้ในคราวเดียวกันรวม 4 ราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 30,823 เม็ด และของกลางอื่นอีกหลายรายการ
8.เมื่อวันที่ 1 เมษายน - 31สิงหาคม 2551 ขณะดำรงตำแหน่งผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้ควบคุมสั่งการในการนำกำลังตำรวจเข้าจับกุมและตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 19 ราย ผู้ต้องหา 43 คน ทำการวิสามัญผู้ต้องหา 4 คน ที่ต่อสู้ขัดขวางขณะเข้าทำการจับกุม ได้ของกลางยาบ้ารวม 2,106,562 เม็ด ยาไอซ์ 2.8 กิโลกรัม และเงินสด 1,821,200 บาท
9.เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2552 ได้ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง และร่วมปฏิบัติงานกับผู้ใต้บังคับบัญชารวมถึงควบคุมสั่งการหน่วยงานสถานีตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ในการสืบสวนจับกุม ผู้ก่อความไม่สงบ ทำให้สถานการณ์การเกิดเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ลดลงจากเดิมจำนวน 473 เหตุการณ์ และร่วมวางแผนสืบสวนสอบสวน จนสามารถรู้ตัวผู้กระทำความผิดในคดีความมั่นคง 741 คดี วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายคดีสำคัญได้ 102 คน จับกุมคนร้ายในคดีความมั่นคงได้ 1,749 คน เป็นเหตุให้ภาพรวมสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มคลี่คลาย การก่อเหตุมีแนวโน้มลดลง
10. ครั้งดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.ศขต. เป็นผู้ริเริ่ม นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ในการป้องกันเหตุร้าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวน จับกุมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนำระบบตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับตามป.วิอาญา และ พ.ร.ก.ฯ ทำการตรวจสอบข้อมูลผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือ (SMS)
11. เป็นผู้ริเริ่มและนำระบบเทคโนโลยีโทรทัศน์วงจรปิดที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ (E-LICENSE PLATE) ในการสืบค้นรถจักรยานยนต์และนถยนต์ต้องสงสัยที่ใช้ในการกระทำความผิดมาใช้ในการประกอบระเบิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาติดตั้งเพื่อป้องกันเหตุภายในพื้นที่เขตเมือง โดยเริ่มโครงการที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานีเป็นแห่งแรก
12. ครั้งดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.ศชต. ได้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการจับกุมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักมาใช้ประกอบระเบิดจากผู้ก่อความไม่สงบ โดยในวันที่ 9 มิถุนายน 2554 ได้ดำเนินการแถลงข่าวทำการตรวจยึดรถยนต์ที่ถูกลักและผิดกฎหมายได้ 31 ตัน ซึ่งเป็นรถที่จะใช้ในการประกอบระเบิด (คาร์บอมบ์)
13. หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ ไปปฏิบัติราชการตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ได้เข้าไปดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในเขตภาคอีสานตอนบน โดยมีผลงานในด้านความมั่นคงชิ้นสำคัญคือ สามารถจับกุมกลุ่มกระบวนการ ซึ่งตระเตรียมการเพื่อวางแผนก่อวินาศกรรมในจังหวัดขอนแก่น และภาคอีสานตอนบน (คดีขอนแก่นโมเดล) ได้จำนวนกว่า 20 คน พร้อมอาวุธปืน , อาวุธสงคราม , เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาเตรียมการไว้ก่อเหตุจำนวนมาก เป็นการช่วยสกัดยับยั้งกลุ่มคนที่คิดไม่ดี ไม่ให้ก่อความเดือดร้อน วุ่นวายให้กับประชาชนในบ้านเมือง นอกจากนี้ ยังมีผลงานด้านยาเสพติดที่สำคัญคือ การวางแผนสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากเขตรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้ามาภายในประเทศจนนำมาซึ่งผลการจับกุมยาเสพติด รายสำคัญๆ จำนวนมากได้หลายคดี
14. เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2557 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่จากผู้บัญชาการตรวจแห่งชาติ ให้มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง (มค2) งานอาชญากรรมข้ามชาติ งานอาชญากรรมที่กระทบกับนักท่องเที่ยวงานปราบปรามเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย งานต่อต้านการก่อการร้าย ก่อการร้ายสากล งานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ งานตำรวจสากล งานความร่วมมือทางอาญา ระหว่างประเทศ และงานกองการต่างประเทศ
15. เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2558 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นหัวหน้าด้านความมั่นคง (มค) กำกับการบริหารราชการ ในงานความมั่นคงในภาพรวม
พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา เคยดำรงตำแหน่ง ดังนี้
1.รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางมด
2.รองสารวัตรจ��าจร สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา
3.รองสารวัตรแผนก 1 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม
4.ผู้ช่วยนายเวร ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ
5.ผู้ช่วยนายเวรรองอธิบดีกรมตำรวจ
6.สารวัตรแผนก 5 กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม
7.ผู้บังคับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรมยาเสพติด 2
8.รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี
9.รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
10.รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี
11.ผู้บังคับการกองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล
12.ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
13.ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี
14.ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย
15.รองผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
16.ผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงิน
17.รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
18.ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
19.ที่ปรึกษา (สบ10)- ปัจจุบัน
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก : สำนักข่าวไทย