ศาลฎีกาพิพากษายืน ประหารชีวิต "ส.ท.ต่าย" ร่วมฆ่า "กอบกุล" อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ สั่งประหารชีวิต "สท.ต่าย" หรือนายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองราชบุรี ร่วมลูกน้องใช้เอ็ม 16 ยิงรถ ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี ปี2549 ส่วนเอ็ม อานนท์ ขอถอนฎีกา รับโทษตามศาลอุทธรณ์คุกตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทีมฆ่านางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 และนายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข สามีนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.ราชบุรี ผู้ตาย เป็นโจทก์ฟ้องนายอนันตศักดิ์ หรือ ส.ท.ต่าย ศรีสวัสดิ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองราชบุรี อายุ 48 ปี นายวิญญู หรือเลิฟ รัตนวรรณี อายุ 36 ปี พ่อค้าผัก และนายอานนท์ หรือเอ็ม พันธ์รัตน์ คนดูแลโต๊ะสนุ้กเกอร์ อายุ 46 ปี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและ พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.49 จำเลยทั้ง 3 ร่วมกับนายสงัด หรือเปี๊ยก พุ่มเพ็ง ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้วร่วมกันมีอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก ร่วมกันยิงนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี จนเสียชีวิต และมีนายชาตรี ศุภรานันท์ คนขับรถ ผู้เสียหายที่ 1 และ จ.ส.ต.สายชล แก้วสายทอง ผู้ติดตามผู้เสียหายที่ 2 ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สี่แยกเขางู หมู่ที่ 2 ต.เจดีย์หัก อ.เมืองราชบุรี พบปลอกกระสุนขนาด .223 จำนวน 38 ปลอก ต่อมาวันที่ 1 มิ.ย.49 สามารถจับกุม ส.ท.ต่าย จำเลยที่ 1 พร้อมของกลางปลอกกระสุนปืนขนาดต่างๆรวม 60 ปลอก ที่จำเลยทั้งสามใช้ซ้อมยิง นอกจากนี้ ยังมีปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 17 นัด และสามารถจับกุมจำเลยที่ 2-3 ได้ในเวลาต่อมา คดีนี้จำเลยที่ 1 ปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 2-3 รับสารภาพ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 มี.ค.54 ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2-3 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต พร้อมให้จำเลยทั้งสามร่วมชดใช้เงิน 3 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.49 ให้กับนายชาตรีผู้เสียหายที่ 1 ต่อมาโจทก์และจำเลยทั้งสามยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1 และ 3 ร่วมกันมีปืนเอ็ม 16 และกระสุนปืนขนาด .223 โดยจำเลยที่ 2 ขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ทะเบียน บม 6149 นครศรีธรรมราช ก่อนที่จำเลยที่ 1 และ 3 ซึ่งนั่งอยู่ด้านท้ายจะใช้ปืนยิงผู้ตาย โดยนายมานิตโจทก์ร่วมเบิกความยืนยันถึงมูลเหตุว่าผู้ตายมีปัญหาขัดแย้งเรื่องโครงการก่อสร้างตลาด พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ อุทธรณ์จำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามมานั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน
ที่มา :กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ภาพ : เดลินิวส์