ไม่พบผลการค้นหา
อนาคต บริษัทโกดักอาจต้องล้มละลาย ขณะที่ ฟูจิ กำลังขยายกิจการไปสู่กลุ่มธุรกิจประเภทอื่นๆ เพื่อขยายอาณาจักรของตนให้ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น

อนาคต บริษัทโกดักอาจต้องล้มละลาย ขณะที่ ฟูจิ กำลังขยายกิจการไปสู่กลุ่มธุรกิจประเภทอื่นๆ เพื่อขยายอาณาจักรของตนให้ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น

 

บริษัทอีสต์แมน โกดัก ผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการถ่ายภาพชื่อดังของสหรัฐฯ ที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 131 ปี เคยเป็นแหล่งรวมสุดยอดวิศวกรฝีมือดีจากทั่วโลก ที่มารวมตัวกันสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆให้กับวงการภาพถ่าย ในยุครุ่งเรืองสูงสุด บริษัทเคยว่าจ้างพนักงานกว่า 145,000 คนทั่วโลก โดพยนักงานส่วนใหญ่ที่เคยทำงานกับโกดัก ต่างรู้สึกเช่นเดียวกันว่า โกดักคือบริษัทที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับบริษัทแอปเปิลและกูเกิลในปัจจุบัน และพวกเขารู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่

 

แต่อีกไม่นาน บริษัทแห่งนี้ อาจกลายเป็นเพียงตำนาน เพราะล่าสุด ทางบริษัทเตรียมยื่นพิทักษ์ทรัพย์เพื่อป้องกันการล้มละลาย หลังจากที่ไม่สามารถต้านทานกับกระแสของโลกยุคดิจิตัลได้ หลายฝ่ายจึงตั้งคำถามว่า เหตุใด โกดักจึงไม่สามารถต่อสู้กับคู่แข่งรายใหม่ได้ ทั้งๆที่ตนเคยเป็นผู้นำในเทคโนโลยีด้านนี้มาก่อน

 

หากจะตอบว่า โกดักไม่ยอมปรับตัว เพื่อรับมือกับโลกยุคดิจิตัล จนทำให้บริษัทต้องเผชิญหน้ากับภาวะใกล้ล้มละลาย ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะในปี 2518 โกดักตัดสินใจที่จะทุ่มงบประมาณไปกับการผลิตกล้องดิจิตัล แต่ขาดการบริหารจัดการที่ดีพอ ทำให้ผลิตภัณฑ์ในประเภทดังกล่าว ไม่ได้รับความนิยมมากนัก จากนั้น โกดักก็หันมาผลิตเคมีภัณฑ์ อุปกรณ์และน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ และอุปกรณ์ทดลองทางการแพทย์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นการบริหารจัดการที่ผิดพลาด จนทำให้ทิศทางของบริษัทขาดความชัดเจน

 

จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นายอันโตนิโอ เปเรซ ซีอีโอคนใหม่ของบริษัท ก็ได้เปลี่ยนแนวทางมาเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตปรินท์เตอร์แทน เพราะไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากการจำหน่ายฟิล์มได้ เนื่องจากปัจจุบัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่ หันมาใช้สมาร์ทโฟน และกล้องดิจิตัลในการถ่ายภาพแทนการใช้ฟิล์ม

 

ขณะเดียวกัน บริษัท Fuji Photo Film จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์ถ่ายภาพชื่อดังของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2477 และเป็นคู่แข่งกับบริษัทโกดักมาเป็นเวลานาน ก็กำลังเข้าสู่การปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ โดยเมื่อไม่นานมานี้ ฟูจิตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการใหม่ ด้วยการก่อตั้งบริษัท FUJIFILM Holdings Corporation ขึ้นมาในปี 2549 เพื่อรับมือกับยุคดิจิตัลโดยเฉพาะ

 

แม้ว่าในช่วงหลัง ฟูจิจะเน้นการผลิตไปที่กล้องดิจิตัล เครื่องปรินท์เตอร์ และเครื่องถ่ายเอกสาร แต่ฟูจิยังก็ยืนยันที่จะผลิตฟิล์มต่อไป แม้ว่ายอดจำหน่ายจะมีเพียงแค่ร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทเท่านั้น นอกจากนี้ ฟูจิยังวางแผนที่จะขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและต่อยอดธุรกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งนอกจากฟูจิจะร่วมทุนกับกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพอย่าง Astalift ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำด้านความงามชื่อดังของญี่ปุ่น เมื่อ 5 ปีก่อน ล่าสุด ฟูจิยังได้ร่วมลงทุนกับบริษัท Mitsubishi Corporation เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านชีวเวชภัณฑ์ เพื่อขยายธุรกิจจากการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีภาพถ่ายและเครื่องถ่ายเอกสาร ไปสู่วงการเวชภัณฑ์อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากเว็บไซต์ เดอะ วอลสตรีท เจอร์นัลมองว่า บทเรียนของบริษัทโกดัก ถือเป็นเครื่องเตือนใจให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายว่า ในโลกแห่งเศรษฐกิจระบบตลาดเสรี ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน ซึ่งแม้จะมีการบริหารจัดการที่ดีขนาดไหน แต่ก็ต้องฝากอนาคตไว้กับความไม่แน่นอน โดยบริษัทแอปเปิล ไมโครซอฟท์ และเฟซบุ๊ก คงต้องศึกษาตัวแบบดังกล่าวไว้ให้ดี เพื่อความอยู่รอดในอนาคต

 

Produced by VoiceTV

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog